กรุงเทพฯ, 15 ก.ค. 68 : กระทรวงอุตสาหกรรม, สํานักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) และ บริษัท ไทยคม จํากัด (มหาชน) เปิดตัว แพลตฟอร์มติดตามร่องรอยการเผาไหม้ในไร่อ้อย ด้วยเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศระบบดาวเทียมผสานกับการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย AI(Artificial Intelligence) อย่างเป็นทางการ หวังต่อยอดขยายผลทุกภาคการเกษตร ที่มีภาวการณ์สร้างมลภาวะทางอากาศ โดยเฉพาะ PM 2.5 เชื่อมั่นเครื่องมือจะช่วยลดการก่อมลภาวะให้ลดลงถึงค่ามาตรฐาน หนุนอุตสาหกรรมการเกษตรเติบโต เสริมเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโต ยั่งยืน
ภายในงานวันนี้ ซึ่งจัดขึ้น ณ ห้องบุหงา โรงแรมโกลเดนทิวลิป ซอฟเฟอริน ได้รับเกียรติจาก นายใบน้อย สุวรรณชาตรี เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมด้วย นายปฐมภพ สุวรรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) เปิดตัวแพลตฟอร์มโดยมีผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนร่วมงานจำนวนมาก

นายใบน้อย สุวรรณชาตรี เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวภายในงานว่า ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ได้มุ่งดำเนินการตามนโยบาย Mind ใช้หัว และ ใจ ปั้นอุตสาหกรรมคู่ชุมชน ของนายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กำหนดวิสัยทัศน์อุตสาหกรรมอ้อยน้ำตาลทราย เติบโตและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน “จากสถานการณ์อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของไทยปีการผลิต 2567/2568 มีชาวไร่อ้อยขึ้นทะเบียน 430,357 ราย พื้นที่ปลูกอ้อย 11.13 ล้านไร่ ปริมาณอ้อยเข้าหีบ 92.04 ล้านตัน เฉลี่ยผลิตน้ำตาลได้ต่อตาลอ้อย 109.19 กิโลกรัม/ตัน ทั้งนี้ในปี 2567 อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศมากกว่า 184,000 ล้านบาท ขณะที่ปี 2568 ณ เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพียงครึ่งปี สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศไปแล้วมากกว่า 92,500 ล้านบาท”

นายใบน้อยกล่าวต่อไปถึงสถานการณ์การค้าน้ำตาลโลกว่า “จากข้อมูลองค์การน้ำตาลระหว่างประเทศ International Sugar Organization หรือ ISO ประเทศไทยเรามีสัดส่วนการผลิตน้ำตาลโลก อยู่ที่ 5% ถือเป็นผู้ผลิตน้ำตาลอันดับ 5 รองจากบราซิล อินเดีย สหภาพยุโรป และจีน โดยมีสัดส่วนในการส่งออกน้ำตาลโลกอยู่ที่ 9% เป็นอันดับ 2 รองจากบราซิล สูงกว่าอินเดียในปีที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมน้ำตาลที่แข็งแรงของไทย จนมีบทบาทที่สำคัญต่อตลาดน้ำตาลของโลก”
เลขาธิการ สอน. ยังเปิดเผยถึงผลการดำเนินงานที่สำคัญประจำปี 2568 ด้วยว่า “สำนักงานฯ มุ่งเน้นในการปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ทันสมัยสะอาด สะดวกโปร่งใส โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้านการแก้ปัญหาฝุ่น
PM 2.5 จากการเผาอ้อยในฤดูการผลิตปี 2567/2568 สอน. ได้ดำเนินการตามมาตรการแก้ไขปัญหาการเผาอ้อย เพื่อลดปัญหาฝุ่นมลพิษ PM 2.5 ใน 6 มาตรการ ซึ่ง 1 ใน 6 มาตรการนั้น คือ การส่งเสริมเทคโนโลยีและเครื่องจักรกลสนับสนุนเครื่องจักรกลทางการเกษตรส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาใช้เทคโนโลยีติดตามการเผาและร่องรอยการเผาไหม้ในไร่อ้อยด้วยดาวเทียม ที่เราได้พัฒนาแพลตฟอร์ม Burn Tracking ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญร่วมกับ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน)”

“จากการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว สามารถลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 จากการเผาอ้อยปีที่ผ่านมา ทำให้มีปริมาณอ้อยสดเข้าหีบสูงสุดที่ 85% 78.3 ล้านตัน ปริมาณเผาอ้อยเข้าหีบเพียง 15% 13.68 ล้านตัน ลดลงจากฤดูการผลิตปี 2566/2567 ที่มีปริมาณการเผาอ้อยเข้าหีบทั้งฤดูกาลผลิตกว่า 29% 24 ล้านตัน ลดการเผาอ้อยลงได้กว่า 10 ล้านตัน เทียบเท่าลดการเผาป่าลงได้กว่า 1 ล้านไร่ หรือลดการปลดปล่อย PM 2.5 ลงได้กว่า 5,000 ตัน/ปี ซึ่งต่ำกว่าเป็นประวัติการณ์ นับเป็นโอกาสอันดี ที่ สอน. และไทยคม ได้แนะนำให้ทุกคนรู้จักกับแพลตฟอร์มติดตามร่องรอยการเผาไหม้ในไร่อ้อย ด้วยเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศระบบดาวเทียมผสานกับการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย AI เครื่องมือสำคัญอย่างเป็นทางการ เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นของเรา ที่จะเดินหน้าในการช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม
ลดการเผาอ้อย การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และฝุ่น PM 2.5 อย่างครอบคลุม”
นอกจากนี้ เลขาธิการ สอน. ยังเปิดเผยภายในงานถึงแผนการดำเนินงานปีงบประมาณ 2569 สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายว่า “เรามีความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนการดำเนินงานทุกพันธกิจด้วยการ ‘ใช้หัว’ และ ‘ใจ’ ปั้นอุตสาหกรรมไทยสู่ชุมชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มรายได้เกษตรกรชาวไร่อ้อยน้ำตาลทรายและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมชีวภาพ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นไบโอฮับ ออฟอาเซียน ภายในปี 2570 พัฒนาพลาสติกชีวภาพ เพื่อช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ลดการเผาอ้อย การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และฝุ่น PM 2.5 สร้างเครือข่าย Center of BioExcellent รวมถึงการใช้เทคโนโลยีในการเพิ่มผลิตผลอ้อยประสิทธิภาพน้ำตาลทราย สร้างนวัตกรรมเกษตรอัจฉริยะ”

ด้าน นายปฐมภพ สุวรรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ที่ผ่านมา ไทยคม ได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนหลายแห่ง ในการนำเทคโนโลยีอวกาศ หรือ Space Tech มาคิดค้นนวัตกรรมและบริการเพื่อพัฒนาการแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ในครั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งในความภาคภูมิใจ ที่เราได้จับมือกับ สํานักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย กระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อร่วมพัฒนาแพลตฟอร์มติดตามร่องรอยการเผาไหม้ในไร่อ้อย ด้วยเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศจากระบบดาวเทียมผสานกับการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย AI เพื่อการส่งเสริมสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การลดฝุ่น PM 2.5”

นายปฐมภพ กล่าวต่อไปว่า “แพลตฟอร์มนี้เรียกอีกอย่างว่า Burn Tracking เป็นระบบวิเคราะห์เพื่อติดตามการเผาและร่องรอยการเผาไหม้ในไร่อ้อย ด้วยเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศระบบดาวเทียม โดยจะแสดงผลการวิเคราะห์ภาพรวมของการเผาไหม้ในพื้นที่ปลูกอ้อยในรูปแบบ Dashboard เพื่อให้สามารถติดตามสถานการณ์ได้สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ พร้อมแสดงผลการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นที่ปลูกอ้อย ผลผลิตอ้อย การคาดการณ์ปริมาณอ้อยเข้าโรงงาน รวมถึงจุดความร้อนและพื้นที่ที่มีร่องรอยการเผาไหม้ โดยนำเสนอในรูปแบบแผนที่เชิงพื้นที่ อำนวยความสะดวกและเพิ่มความรวดเร็วในการนำข้อมูลผลการวิเคราะห์ไปใช้งาน โดยสามารถส่งออกข้อมูลได้ทั้งในรูปแบบไฟล์ PDF และ CSV สามารถรับข้อมูลข่าวสาร พูดคุยสอบถามกับเจ้าหน้าที่ และรับการแจ้งเตือนจุดความร้อนในพื้นที่ปลูกอ้อยได้อย่างสะดวก ผ่าน Line Official Account”

“ไทยคม ขอขอบคุณ และยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมพัฒนาแพลตฟอร์มอัจฉริยะนี้อย่างเต็มศักยภาพด้วยเทคโนโลยี Space Tech และข้อมูลภูมิสารสนเทศจากระบบดาวเทียมผสานกับการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย AI อันจะบรรลุผลสำคัญในการส่งเสริมสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การลดฝุ่น PM 2.5 อันเกิดจากการเผาไหม้ในภาคอุตสาหกรรมการเกษตร ซึ่งไม่ได้จำกัดแต่เพียงอุตสาหกรรมอ้อยเท่านั้น แต่ยังสามารถต่อยอดไปสู่อุตสาหกรรมการเกษตรอื่นๆ อีกด้วย”
ทั้งนี้ นายปฐมภพ มีความเชื่อมั่นว่า การร่วมมือกันในครั้งนี้จะสามารถผลักดัน สร้างความตระหนักรู้ และส่งเสริมสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการลดฝุ่น PM 2.5 ให้บรรลุผล อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน และส่งเสริมอุตสาหกรรมการเกษตรโดยเฉพาะอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายให้เติบโต หนุนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโต และยั่งยืนต่อไป

จากนั้น เป็นพิธีเปิดแพลตฟอร์มติดตามร่องรอยการเผาไหม้ในไร่อ้อย ด้วยเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศระบบดาวเทียมผสานกับการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย AI ซึ่งภายในงาน นายสุวิน ชัยวัง ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สํานักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย. และ นายธีระทัศน์ เกิดช่วย ผู้อํานวยการสำนักผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีอวกาศ บมจ.ไทยคม ได้ร่วมสาธิตการใช้แพลตฟอร์ม ซึ่งมีฟังก์ชั่นการใช้งาน ดังนี้

● DASHBOARD : การวิเคราะห์ข้อมูลภาพรวมของการเผาไหม้ในพื้นที่ปลูกอ้อย โดยมีการแสดงข้อมูล
ทั้งภาพรวมของพื้นที่โครงการและการแสดงผลข้อมูลรายภาค ไม่ว่าจะเป็นการแสดงพื้นที่ปลูกอ้อย, แสดงผลผลิตอ้อย, แสดงการคาดการณ์ปริมาณอ้อยเข้าหีบ, แสดงพื้นที่ปลูกอ้อยซ้ำ, แสดงจุดความร้อน, แสดงพื้นที่เผาไหม้ซาก
● MAP การแสดงผลการวิเคราะห์ข้อมูลในรูปแบบของแผนที่แสดงข้อมูลพื้นที่ปลูกอ้อยผลผลิตอ้อย และการคาดการณ์ปริมาณอ้อยเข้าหีบ : โดยมีการนำเสนอข้อมูลตั้งแต่ระดับภาพรวมของโครงการ รายจังหวัด ไปจนถึงระดับตำบล พร้อมทั้งแสดงรายละเอียดข้อมูลเฉพาะพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลในจุดที่สนใจได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากยิ่งขึ้น
● Mini Dashboard : สามารถเปรียบเทียบข้อมูลได้ในระดับจังหวัด อำเภอ และตำบล พร้อมทั้งแสดงผลข้อมูลผ่านแผนที่เชิงพื้นที่ เพื่อสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่สามารถเปรียบเทียบและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และตรงประเด็นมากยิ่งขึ้น จุดความร้อนและพื้นที่เผาไหม้ระบบสามารถแสดงข้อมูลจุดความร้อนในพื้นที่ปลูกอ้อย รวมถึงพื้นที่ที่มีร่องรอยการเผาไหม้ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวอ้อย โดยมีการแสดงผลในรูปแบบแผนที่ พร้อมการนำเสนอข้อมูลตั้งแต่ระดับภาพรวมของโครงการ ระดับจังหวัด ไปจนถึงระดับตำบล ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถเลือกแสดงข้อมูลตามช่วงเวลา ได้แก่ รายวัน รายสัปดาห์ รายปี หรือกำหนดช่วงเวลาที่สนใจได้ตามต้องการ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการวางแผนและบริหารจัดการโครงการที่เกี่ยวข้องกับอ้อยอย่างมีประสิทธิภาพและตรงจุด
● MAP EXPORT : สามารถเลือกเฉพาะข้อมูลพื้นที่ที่สนใจ และเฉพาะข้อมูลที่สนใจ แล้วนำข้อมูลออกไปใช้งานในรูปแบบของแผนที่ ไฟล์ PDF และ CSV ได้
● BURNTRACKING Line Official Account เจ้าหน้าที่สามารถรับข่าวสารการแจ้งเตือนการเกิดจุดความร้อนในพื้นที่ รวมไปถึงพูดคุยปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับอ้อยผ่าน Line Official Account
ทั้งนี้ สามารถเริ่มใช้บริการได้แล้วตั้งแต่วันนี้ เพียง Scan QR code
