นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยวันนี้ว่าจากปัญหาการขาดแคลนปุ๋ย และส่งผลให้ปุ๋ยราคาแพงต่อเนื่อง

โดย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งการให้เร่งแก้ปัญหาและช่วยเหลือเกษตรกรเป็นการเร่งด่วนโดยล่าสุด ตนได้หารือกับ นิโคไล เชอร์เยฟ ที่ปรึกษาสำนักงานผู้แทนการค้ารัสเซียประจำประเทศไทย วิตาลี คิสเซเรฟประธานหอการค้าไทย-รัสเซีย พร้อมด้วยนายยงยุทธ สาระสมบัติ นายกสมาคมส่งเสริมเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทย-รัสเซีย นายอาณัติชัย รัตตกุล คณะทำงานที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯและคณะเกี่ยวกับการนำเข้าปุ๋ยเคมีจากรัสเซียในราคามิตรภาพ ซึ่งจากการหารือรอบแรกผู้แทนการค้าโดยจากการการรือรัสเซียยืนยันว่ารัสเซียกับไทยมีความสัมพันธ์กันมากว่าร้อยปีจึงเห็นด้วยในหลักการที่จะขายปุ๋ยให้ไทยในราคาพิเศษโดยสถาบันเกษตรกร หรือ อตก. และจำหน่ายสู่เกษตรกรโดยตรงซึ่งภาครัฐตกลงกันเรื่องราคามิตรภาพ และมอบหมายเอกชนผู้ส่งออกนำเข้าของ2ประเทศไปเจรจากัน และจะเชิญผู้แทนของธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร(ธกส.) องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ตัวแทนสถาบันเกษตรกรสมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์และสมาคมผู้ค้าปุ๋ยร่วมหารือร่วมกันอีกครั้งเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนปุ๋ยค่อไป

อย่างไรก็ตาม สำหรับการนำเข้าประเทศไทยนำเข้าปุ๋ยเคมีจากต่างประเทศเกือบ 100%  กว่า 5 ล้านตัน เป็นมูลค่ากว่า 73,430 ล้านบาทในปี 2564 มากกว่าปี 2563 ถึง 54.1% โดยรัสเซีย เป็นประเทศที่ส่งออกปุ๋ยเคมี คิดเป็นมูลค่ามากที่สุดในโลกปีละกว่า 2 แสนล้านบาทคิดเป็นสัดส่วน 12.7% ของมูลค่าการส่งออกทั้งโลก โดยไทยนำเข้าจากรัสเซียเป็นมูลค่า 5,670 ล้านบาทในปี ที่แล้วคิดเป็นสัดส่วนราว 7.7% ของการนำเข้าปุ๋ยเคมีทั้งหมด

อย่างไรก็ตามจากการแพร่ระบาดของโควิด19 ราคาปุ๋ยเคมีทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นและเมื่อเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครนยิ่งทำให้ปุ๋ยเคมีมีราคาสูงยิ่งขึ้นไปอีกกระทบต่อต้นทุนของเกษตรโดยตรง ก่อนหน้านี้กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงการต่างประเทศและหอการค้าไทยได้เจรจาขอซื้อปุ๋ยเคมีราคามิตรภาพจากซาอุดีอาระเบียจนสามารถตกลงในหลักการและขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจานำเข้าส่งออกของภาคเอกชนของ 2 ประเทศ

By admin

สนใจโฆษณาติดต่อ คุณจันทร์แรม โทร 0917233792

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข่าวเด่น