วันที่ 17 พฤษภาคม 2565 “ทีมวิจัยโรงเรียนนายร้อยตำรวจ” โรงเรียนนายร้อยตำรวย ร่วมกับ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ มีการประชุมเผยแพร่ผลการวิจัยโครงการพัฒนาระบบเครือข่ายอาชีพรองรับการกลับคืนสู่สังคมของเด็กและเยาวชน ที่โรงแรม เอสดี อเวนิว ปิ่นเกล้า และผ่านระบบออนไลน์ (Zoom meeting) โดยมี ศาสตราจารย์ พลตำรวจตรีหญิง ดร.พัชรา สินลอยมา ผู้บริหารจัดการโครงการ และพันตำรวจตรี ดร.ปริญญา สีลานันท์ หัวหน้าโครงการ

พันตำรวจตรี ดร.ปริญญา สีลานันท์ หัวหน้าโครงการในการศึกษาวิจัย  เปิดเผยว่า จากการศึกษาวิจัย พบว่า ปัญหาที่เยาวชนกระทำผิดกฎหมาย  และกระทำผิดซ้ำอีกมีแนวโน้มมากขึ้นจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า มีการกระทำผิดซ้ำมากกว่าร้อยละ 40 ของผู้ที่เข้าสถานพินิจเป็นคดียาเสพติดที่กระทำผิดซ้ำกว่าร้อยละ 27 นอกจากนั้นเป็นคดีอื่นๆร้อยละ 13 ของผู้กระทำผิดซ้ำ 

ที่น่าห่วงคือเด็กที่เข้าไปอยู่ในสถานพินิจ ออกมาแล้ว ไม่มีงานทำ และ ไม่มีเงินในการดูแลตนเอง จึงหวนกลับไปกระทำผิดซ้ำ  ทางทีมวิจัยจึงได้จัดทำโครงการที่จะเป็นแกนกลางในการเชื่อมโยง ระหว่างสถานพินิจกับผู้ประกอบการ ในการหาแหล่งงานให้กับเยาวชนที่กำลังจะออกมาสู่สังคมได้มีโอกาสทำงานเพื่อเลี้ยงชีพได้อย่างมั่นคง โดยจะสานงานในการฝึกอบรมอาชีพให้กับเยาวชนที่หลงผิด  ให้เข้าไปฝึกอบรมอาชีพตามความถนัดของเด็กและเยาวชนได้มีอาชีพติดตัวไปทำงานหลังจากพ้นโทษ โดยมีพี่เลี้ยงทีมฝึกอบรมแนะนำอาชีพ ซึ่งจะมีทั้งอาชีพช่างต่างๆ อาชีพอิสระ โดยเฉพาะอาชีพขายของออนไลน์ที่กำลังได้รับความนิยมในตลาดขณะนี้ โดยจะมีทีมฝึกอบรมแนะนำเชื่อว่าหากเด็กมีอาชีพที่มั่นคงจะไม่หวนไปกระทำผิดซ้ำอีก ถือเป็นการให้โอกาสกับเด็กและเยาวชน ที่หลงผิดกลับมาเป็นคนดีในสังคม

นอกจากนี้ ยังจะประสานเป็นตัวกลางในการในการเจรจากับผู้ประกอบการ ที่ต้องการแรงงานเฉพาะด้าน โดยเฉพาะช่างต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นช่างยนตร์ ช่างเชื่อม ช่างกลโรงงาน ตามความต้องการของผู้ประกอบการ ในโรงงานต่างๆ เพื่อเปิดโอกาส ให้กับเด็กและเยาวชน ได้เข้าไปมีโอกาสทำงานมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ จากการเจรจากับทางผู้ประกอบการเจ้าของโรงงาน มีความพร้อมที่จะให้โอกาสขอให้เป็นคนที่ขยัน ซื่อสัตย์และรับผิดชอบต่อหน้าที่เท่านั้น ผู้ประกอบการพร้อมจะเปิดโอกาสให้กับผู้หลงผิดได้กลับมาเป็นคนดีจำนวนมาก และเป็นไปในทิศทางที่ดีมากขึ้น ทางทีมวิจัยจะส่งมอบข้อมูลไปยังกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เพื่อเตรียมพร้อมในการพัฒนาอาชีพเด็กและเยาวชน  เพื่อส่งต่อสู่สังคมต่อไป

นอกจากนั้น ทีมวิจัยยังมีการเตรียมพร้อมที่จะสนับสนุนข้อมูลในการที่จะสร้างแอพพลิเคชั่น “เทคโนโลยีอัจฉริยะยุติธรรม” เข้ามาใช้ โดยมีการเชื่อมโยงด้านข้อมูล โดยกรมพินิจฯ จะเป็นหน่วยงานหลักในการจัดทำข้อมูลประกอบด้วยรายละเอียดของเยาวชนที่ผ่านการฝึกอบรมด้านอาชีพตามความต้องการของผู้ประกอบการ เจ้าของกิจการสามารถเลือกแรงงานให้เป็นไปตามความต้องการของแต่ละแห่ง โดยเด็กและเยาวชนที่ผ่านการฝึกอบรม นอกจากจะมีความเชี่ยวชาญงานตามถนัด ยังจะต้องผ่านการตรวจสอบด้านพฤติกรรมที่สามารถทำงานร่วมกับสังคมได้อย่างปกติด้วย ซึ่งจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการด้วย

ด้านศาสตราจารย์ พลตำรวจตรีหญิง ดร.พัชรา สินลอยมา ผู้บริหารจัดการโครงการ กล่าวว่า ปัญหาเด็กและเยาวชนที่กระทำผิดในขณะนี้ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่กระทบต่อปัญหาสังคม และปัญหาด้านเศรษฐกิจโดยรวมทั้งระบบ เพราะเด็กและเยาวชนเหล่านี้กำลังก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่จึงต้องเร่งแก้ปัญหา ที่กำลังส่อเค้ารุนแรงมากขึ้น ทางทีมงานจึงเสนอแผนงานเพื่อทำการวิจัยและแก้ปัญหาต่อสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ทำการวิจัยและหาทางออกกับปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นและป้องกันไม่ให้เด็ก และเยาวชนกลับมาสู่วังวนเดิม

ปัญหาใหญ่มากที่สุดสู่การกระทำผิด คือ เด็กขาดแคลนเงิน จึงพยายามที่จะหาเงิน และหาเงินในทางที่ผิดโดยเข้าไปอยู่ในขบวนการค้ายาเสพติด เพราะหาเงินง่ายโดยแนวทางในการแก้ปัญหาคือต้องสร้างโอกาสให้กับเด็กและเยาวชนที่หลงผิดโดยจะฝึกอบรม สร้างอาชีพ และให้คำแนะนำตามความต้องการของแต่ละคน โดยจะประสานงานกับกรมพินิจฯ เพื่อฝึกอาชีพและเตรียมความพร้อมของแต่ละคนโดยเด็กส่วนใหญ่ จะมีความถนัดที่หลากหลายทั้งอาชีพช่าง อาชีพอิสระด้านต่างๆ โดยเฉพาะอาชีพขายของทางออนไลน์ โดยจะมีนักขายที่มีความชำนาญมาฝึกอบรมเทคนิคการขายให้ ส่วนอื่นๆทางกรมพินิจฯ จะมีพี่เลี้ยงในการแนะนำอาชีพและฝึกอบรมให้ก่อนที่จะออกมาสู่สังคม

“เด็กและเยาวชนที่หลงผิด สำคัญคือโอกาสที่จะกลับสู่สังคมที่ดี ซึ่งเราต้องให้โอกาสเขาเหล่านั้นเพราะเขาคือกำลังหลักของชาติในอนาคต เด็กเหล่านี้คือเด็กที่มีพรสวรรค์ เราทำอย่างไรก็ได้ไม่ให้เด็กกลับไปทำความผิดซ้ำ ต้องคิดว่าเด็กทุกคนคือลูกของเราที่เราต้องดูแล ถ้าไม่เรียนหนังสือต้องมีงาน คิดว่าต้องดูแลกัน” พลตำรวจตรีหญิง ดร.พัชรา กล่าว

ด้านนางสาวนาฑีรัตน์ บุญรัตน์ ตัวแทนจากบริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด กล่าวว่า ทางกลุ่มบริษัททำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารและโรงแรม โดยเป็นเจ้าของ บาร์บีคิว พลาซ่า พร้อมที่จะให้โอกาสกับเด็กและเยาวชนที่หลงผิดกลับมาเป็นคนดีในสังคมและเชื่อในวงจรความสุข บริษัทพร้อมที่จะให้ทุนการศึกษาและให้อาชีพกับเยาวชนที่กลับใจเป็นคนดีและพร้อมที่จะกลับสู่สังคมเสมอ  บริษัทมีการจัดฝึกอบรมและให้ทุนการศึกษากับผู้ด้อยโอกาสทางสังคม โดยเฉพาะชาวเขาให้ทุนการศึกษาในระดับ ปวช. โดยไม่ต้องทำงานเพื่อทดแทนทุนการศึกษาแต่อย่างใด  และหากเรียนจบแต่ไม่ประสงค์จะทำงาน ก็ไม่ต้องชดใช้ทุนการศึกษาที่ทางบริษัทให้เรียน เพียงแต่ขอให้นำความรู้ไปใช้สร้างรายได้ก็พอ ซึ่งทางบริษัทมีการฝึกเด็กไปแล้วไม่ต่ำกว่า 300 คน  มีทั้ง ช่าง และ ธุรกิจด้านการค้า  เป็นหลักเพื่อให้เด็กรู้หลักการคิด เพื่อสร้างรายได้อย่างมั่นคงยั่งยืน เพื่อไม่ให้หลงกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก

“เราพร้อมให้โอกาสเด็กและเยาวชนที่หลงผิดเพื่อกลับเข้าสู่สังคมที่ดี เราจะช่วยเหลือเขาให้มีโอกาส เข้ามาเป็นคนดีในสังคม เราจะส่งเสริมเด็กที่สนใจ และฝึกอบรมตามความชอบของเด็กเป็นหลัก โดยจะต้องผ่านการศึกษาระดับ ม.3  เพื่อเรียนในระดับ ปวช . ด้านอาชีพเราไม่เช็นสัญญาใช้ทุน แต่ขอให้เรียนให้จบ กลับเป็นคนดีทางสังคม เราก็ยินดี สนับสนุน โดยจะเริ่มปีนี้เป็นปีแรก” นางสาวนาฑีรัตน์ กล่าว

By admin

สนใจโฆษณาติดต่อ คุณจันทร์แรม โทร 0917233792

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข่าวเด่น