สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. เตรียมจัดงานแสดงสินค้านิทรรศการและการประชุมชาและกาแฟระดับนานาชาติ (World Tea and Coffee Expo) ที่จังหวัดเชียงใหม่ในระหว่างวันที่ 24-27 กุมภาพันธ์ 2565 เพื่อยกระดับภาคเหนือของประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลาง การผลิต และการค้าระดับโลกสำหรับกาแฟและชา
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผุ้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) กล่าวว่า “ภาคเหนือของไทยกำลังได้รับการยอมรับจากทั่วโลกในฐานะผู้ผลิตเมล็ดกาแฟระดับพรีเมี่ยมและใบชาชั้นเลิศ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้มีบทบาทเพิ่มขึ้นต่อเศรษฐกิจระดับภูมิภาค การจัดงาน World Tea and Coffee Expo: The 2nd Tea and Coffee International Symposium จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อห่วงโซ่อุปทานของเครื่องดื่มยอดนิยมของโลกในภาคเหนือ และนำดินแดนล้านนาเข้าสู่แผนที่อุตสาหกรรมกาแฟ และชาของโลก เพราะเป็นที่ทราบดีว่า ภาคเหนือเป็นแหล่งปลูกชา กาแฟ ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ การันตีด้วยรางวัลผลิตภัณฑ์ชาและกาแฟระดับนานาชาติมากมาย และมีการพัฒนาการผลิต คุณภาพ อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ภาคเหนือยังสามารถไปต่อ เพราะยังมีศักยภาพ และโอกาสอีกมากที่จะนำมาส่งเสริมอุตสาหกรรมชาและกาแฟ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการตลาด และร่วมมือทางธุรกิจ ผ่านทางงานประชุมและแสดงสินค้าที่สสปน. จัดร่วมกับภาคีเครือข่ายครั้งนี้”
World Tea and Coffee Expo มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-27 กุมภาพันธ์ ภายใต้ธีม “From local to global” ที่ศูนย์การประชุมเอมเพรส โรงแรม ดิ เอมเพรส ใจกลางเมืองเชียงใหม่
โดยรูปแบบของการจัดงานในครั้งนี้จะแบ่งเป็น 3 ส่วน กล่าวคือ งานประชุม งานนิทรรศการแสดงสินค้า และจับคู่ธุรกิจ โดยในส่วนงานแสดงสินค้าจะรวบรวมผู้แสดงสินค้าชั้นนำ 50 ราย ประกอบด้วยผู้จัดแสดงผลิตภัณฑ์และบริการชาและกาแฟในประเทศ 45 รายและอีกห้ารายจากต่างประเทศ โดยผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงานจะได้รับโอกาสในการพบปะกับผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย ผู้นำเข้า และ ซัพพลายเออร์ ที่อยู่เบื้องหลังเครื่องดื่มสุดโปรดนี้ และคาดการณ์ว่าจะมีธุรกรรมที่สะพัดภายในงานแสดงสินค้าตลอด 4 วัน เป็นมูลค่ากว่าสิบล้านบาท และขณะเดียวกันจะมีการจับคู่ธุรกิจ การสร้างเครือข่าย เพื่อต่อยอดการค้า การลงทุน ซึ่งกิจกรรมการจับคู่ธุรกิจนี้นับเป็นหัวใจของงาน โดยทีเส็บจะนำผู้ซื้อตัวจริงในวงการชาและกาแฟจากทั่วประเทศมาร่วมเจรจาการค้าที่มีระบบมาตรฐานมืออาชีพ และมีการกระตุ้นติดตามผลสัมฤทธิ์หลังงาน ในส่วนงานประชุม เกษตรกรและผู้ประกอบการท้องถิ่นที่เป็นกลุ่มเป้าหมายในแปดจังหวัดภาคเหนือจะสามารถเข้าถึงสาระ ความรู้ และข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการผลิต แนวโน้มตลาด และแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดที่ผู้เชี่ยวชาญหลากหลายวงการ สำหรับบุคคลทั่วไปที่สนใจ ในงานจะมีการสาธิตรูปแบบการผลิตชาและกาแฟที่เป็นเอกลักษณ์ และเทคนิคการชงกาแฟโดยแชมป์บาริสต้า จากกรุงเทพ และในพื้นที่ภาคเหนือ งานนี้จึงเป็นงานชากาแฟครบวงจรสำหรับตัวจริงในวงการ
ทั้งนี้ โครงการ World Tea and Coffee Expo ได้มีการจัดกิจกรรมในส่วนงานอบรม และประชาสัมพันธ์เส้นทางไมซ์สร้างสรรค์ด้านชา กาแฟ ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายไปเมื่อปี 2564 ในส่วนการจัดงานประชุมและแสดงสินค้าที่เชียงใหม่ในครั้งนี้ จะเป็นการเติมเต็มภาพความพร้อมของห่วงโซ่ธุรกิจชากาแฟของภาคเหนือโดยมีเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมกาแฟคุณภาพสูง และเชียงรายเป็นแหล่งชาชั้นเลิศ และคาดหวังว่าโครงการนี้จะสามารถสร้างแบรนด์จุดหมายปลายทาง (Destination Branding) ของทั้งจังหวัดเชียงใหม่ และเชียงรายในการเป็นเมืองชากาแฟ ให้เด่นชัดขึ้น
นายจิรุตถ์ กล่าวต่อไปว่า “ทีเส็บมุ่งมั่นตั้งใจอย่างยิ่งที่จะปั้นให้โครงการ World Tea and Coffee Expo เป็นต้นแบบการใช้งาน MICE เป็นเครื่องมือสำคัญในการกระตุ้นให้ภูมิภาคนี้เป็นศูนย์กลางการผลิต การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับกาแฟและชาในระดับโลก”
การจัดงาน World Tea and Coffee Expo ในครั้งนี้จะดำเนินการในรูปแบบผสมประสาน หรือไฮบริด คือบนสถานที่จริง และทางออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าร่วมงานตามแนวทางป้องกันการแพร่ระบาดโควิดของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด
งาน WTCE จะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อผู้ผลิตกาแฟ และชาในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน จึงขอประชาสัมพันธ์งานให้กับผู้ที่สนใจ หากท่านเป็นผู้หนึ่งที่อยู่ในธุรกิจ ชา และ กาแฟ ห้ามพลาด!
ลงทะเบียนเพื่อเข้าชมงานได้แล้ววันนี้:
ติดตามการอัพเดทล่าสุดได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/ThailandTeaCoffeeExpo/
Line: https://lin.ee/5oXP7TQ
ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ ณิชาภัทร ผ่องสุวรรณ (ดาริน), อีเมล์: nichapat.kavin@gmail.com โทร: 098 275 0301