กรมชลประทานร่วมกับคณะอนุกรรมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำรายภาคพื้นที่ภาคกลาง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การประปานครหลวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สถานีสูบน้ำดิบบางเลน จ.นครปฐม เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและเตรียมความพร้อมในการป้องกันปัญหาการรุกตัวของน้ำเค็มในลุ่มน้ำเจ้าพระยา

    ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ขณะนี้ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 12,741 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 51 ของความจุอ่างฯ  มีน้ำใช้การได้ 6,045 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีการใช้น้ำแล้วประมาณ 3,069 ล้าน ลบ.ม.  มีการทำนาปรังไปแล้วประมาณ 4.08 ล้านไร่ เกินแผนที่วางไว้ร้อยละ 45 (แผน 2.81 ล้านไร่) ในส่วนของ 2 เขื่อนหลักลุ่มน้ำแม่กลอง (เขื่อนวชิราลงกรณ เขื่อนศรีนครินทร์) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 23,216 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 87 ของความจุอ่างฯ เป็นปริมาณน้ำใช้การได้ประมาณ 9,939 ล้าน ลบ.ม. มีการใช้น้ำไปแล้ว 771 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 13 ของความจุอ่างฯรวมกัน

กรมชลประทาน ได้วางแผนจัดสรรน้ำฤดูแล้งปี 2564/65 ในลุ่มเจ้าพระยารวม 7,744 ล้าน ลบ.ม. แบ่งเป็นช่วงฤดูแล้ง 5,700 ล้าน ลบ.ม. และสำรองไว้ช่วงต้นฤดูฝนอีก 3,044 ล้าน ลบ.ม. เพื่อการอุปโภคบริโภค นอกจากนี้ ยังได้มีการปรับปฏิทินการเพาะปลูกในพื้นที่ลุ่มต่ำทุ่งบางระกำ และ 10 ทุ่งลุ่มต่ำเจ้าพระยาตอนล่าง พร้อมดำเนินการตามมาตรการรองรับการขาดแคลนน้ำฤดูแล้งปี 2564/65 ทั้ง  8 มาตรการ ประกอบด้วย เร่งเก็บกักน้ำ จัดหาแหล่งน้ำสำรองในพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ กำหนดแผนจัดสรรน้ำฤดูแล้ง วางแผนเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง เตรียมน้ำสำรองสำหรับพื้นที่ลุ่มต่ำ เฝ้าระวังคุณภาพน้ำ (ความเค็ม) ติดตามประเมินผล และประชาสัมพันธ์สร้างการรับรับรู้ โดยเน้นย้ำสร้างการรับรู้ถึงสถานการณ์น้ำและแผนบริหารจัดการน้ำให้เกษตรกรและกลุ่มผู้ใช้น้ำได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนรณรงค์ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนร่วมใจกันใช้น้ำอย่างประหยัดด้วย

สำหรับสถานการณ์ค่าความเค็ม ในแม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำเจ้าพระยา ณ วันที่ 9 ก.พ. 65 ข้อมูลจากการประปานครหลวง พบว่าภาพรวมยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ ค่าความเค็มอยู่ที่ 0.5 กรัม/ลิตร ยังไม่เกินเกณฑ์เฝ้าระวังความเค็มที่ 0.25 กรัม/ลิตร แต่ยังต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูง ในช่วงวันที่ 14-18 ก.พ.65 ซึ่งกรมชลประทานได้วางแผนบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำสายหลัก (แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำเจ้าพระยา) ควบคู่กัน เพื่อควบคุมคุณภาพให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด พร้อมดำเนินการตามมาตรกรควบคุมค่าความเค็ม ด้วยการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนพระรามหก ให้สอดคล้องกับจังหวะการขึ้นลงของน้ำทะเล โดยคำนึงถึงมาตรการประหยัดน้ำจากพื้นที่ตอนบน การผันน้ำจากแม่น้ำแม่กลองผ่านคลองจรเข้สามพันและคลองท่าสาร-บางปลา มายังแม่น้ำท่าจีน ก่อนจะผันเข้าคลองพระยาบันลือ และใช้สถานีสูบน้ำสิงหนาท 2 สูบน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยาตามลำดับ เพื่อควบคุมค่าความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง  และได้กำชับให้สำนักงานชลประทานในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา บริหารจัดการประตูระบายน้ำและอาคารเชื่อมต่อที่ดูแลโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเปิดรับน้ำเฉพาะการอุปโภคบริโภคตามรอบเวรที่กำหนด รวมทั้งขอความร่วมมือสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าเพื่อการเกษตร งดสูบน้ำสำหรับการเพาะปลูก ตลอดจนวางแผนร่วมกับการประปานครหลวง เพิ่มชั่วโมงในการทำ Water Hammer Operation  และขอความร่วมมือสำนักการระบายน้ำ กทม. ให้ทำการระบายน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วงเวลาน้ำลง  เพื่อผลักดันน้ำเค็มอีกทางหนึ่งด้วย

ทั้งนี้ กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บูรณาการร่วมกัน ตามมาตรการรองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำฤดูแล้งปี 2564/65 เพื่อให้สามารถวางแผนการจัดสรรน้ำให้ชัดเจนและไปในทิศทางเดียวกัน แก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำควบคู่กับรณรงค์ประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัดเพื่อประโยชน์สูงสุด

By admin

สนใจโฆษณาติดต่อ คุณจันทร์แรม โทร 0917233792

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข่าวเด่น