เครือ รพ. พญาไท-เปาโล ยืนหนึ่งสายสุขภาพคว้ารางวัล  “องค์กรนวัตกรรมดีเด่น 2567” เป็นครั้งที่ 2 สะท้อนความเป็นผู้นำแห่งนวัตกรรมสุขภาพยั่งยืน 

กรุงเทพฯ – เครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล ประกาศความสำเร็จอีกครั้งด้วยการคว้ารางวัลอันทรงเกียรติ รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ด้านองค์กรนวัตกรรมดีเด่น ประจำปี 2567 จากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ถือเป็นครั้งที่ 2 ที่ได้รับรางวัลนี้ (ครั้งแรกเมื่อปี 2565) ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเพื่อสุขภาพอย่างยั่งยืน โดยมี นายอัฐ ทองแตง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล และ ดร. นิรุธ ศรีพวาทกุล ผู้อำนวยการสายพัฒนาคุณค่าธุรกิจและการเรียนรู้ เครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล เข้ารับโล่ประกาศเกียรติคุณจาก ดร. กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) รางวัลนี้เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจ สะท้อนให้เห็นถึงความทุ่มเทในการส่งมอบบริการที่เป็นเลิศให้แก่ผู้ป่วยของเราทุกคน และความมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ป่วย สร้างความเชื่อมั่นในระดับประเทศ และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนระบบสาธารณสุขของประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน 

ด้วยวิสัยทัศน์ของ นายอัฐ ทองแตง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเครือโรงพยาบาลพญาไทเปาโล ที่มักเน้นย้ำว่ากุญแจสำคัญของความสำเร็จทั้งหมด มาจากการสร้างวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้และพัฒนา ที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้บุคลากรทุกคนคิดเก่ง คิดดี และทำได้จริง” 

“การมี Mindset ที่ยึดถือแนวคิดการไม่หยุดพัฒนา ทำให้เครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล สามารถปรับตัวให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อยกระดับประสบการณ์ด้านสุขภาพของผู้ป่วย พร้อมพัฒนาบุคลากรให้เป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร ซึ่งส่งผลให้เกิดผลงานนวัตกรรมต่างๆ ที่ตอบโจทย์ทั้งการแก้ปัญหาและการพัฒนาบริการทางการแพทย์ สร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นแก่ผู้ป่วย จนเกิดผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ในโรงพยาบาล”  

ผลงานนวัตกรรมที่โดดเด่นและได้รับการคัดเลือกในเวทีนวัตกรรมแห่งชาติ ประกอบด้วย แคมเปญ ‘Fight for Better’, โครงการ ‘All You Can Check’ และ ‘Healthy Together’, นวัตกรรมบริการคุณพระช่วย’, เทคโนโลยี AI EKG สำหรับการอ่านคลื่นหัวใจ และแอปพลิเคชัน Health Up 

เหตุผลที่เลือก 6 นวัตกรรมนี้ เพราะเป็นโซลูชันที่แก้ปัญหาสุขภาพของลูกค้าได้จริงและสามารถขยายผลไปสู่ระบบสาธารณสุขในอนาคตได้อีกด้วย  

แคมเปญ “Fight for Better” มุ่งเน้นการสร้างวัฒนธรรมองค์กรด้วยแนวคิด ‘Fight for Better’ ดีที่สุดไม่มี มีแต่ดีขึ้น ที่เชื่อว่าทุกอย่างสามารถพัฒนาให้ดีขึ้นได้อีกเสมอ เราจึงสนับสนุนให้พนักงานทุกระดับมีบทบาทเป็นนวัตกร และร่วมกันสร้างสรรค์พัฒนางานในหน้าที่ความรับผิดชอบของตนเองให้ดีขึ้นจนเกิดเป็นผลงานนวัตกรรม เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีด้านสุขภาพให้กับผู้ป่วย รวมถึงพัฒนาบุคลากรให้เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญขององค์กร โดยมีเวที The pPitch Awards ที่เปิดโอกาสให้พนักงานได้นำเสนอนวัตกรรมจากความคิดสร้างสรรค์ที่ตอบโจทย์ Pain Point ของผู้ป่วย ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างสุขภาวะที่ดีให้กับสังคม  

โปรแกรมตรวจสุขภาพ ‘All You Can Check’ ที่ออกแบบมาโดยเน้นการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน (Preventive Care) เพื่อมอนิเตอร์สุขภาพอย่างต่อเนื่องตลอด 1 ปี โดยปรับพฤติกรรมให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน พร้อมวางแผนการดูแลสุขภาพอย่างตรงจุด โดยมีแพทย์ผู้ชำนาญการให้คำแนะนำ เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน โปรแกรมนี้ครอบคลุมตั้งแต่การตรวจสุขภาพพื้นฐานไปจนถึงการตรวจเจาะลึกคัดกรองความเสี่ยงเฉพาะด้าน เช่น CT Scan และ MRI โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม นับเป็นมิติใหม่ของการดูแลสุขภาพที่เครือโรงพยาบาลพญาไทเปาโล ริเริ่มขึ้น 

“Healthy Together” เป็นโครงการที่โรงพยาบาลเข้าไปร่วมสร้างวัฒนธรรมสุขภาพดีให้กับองค์กร โดยออกแบบโปรแกรม Let’s get healthy! (LGH) ใช้ประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพของพนักงานในเชิงลึกผ่านระบบดิจิทัล ครอบคลุมทั้งหมด 8 หมวด โดยผลการประเมินจะถูกวิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลจากผลการตรวจสุขภาพและผลจากห้องปฏิบัติการต่างๆ หลังจากนั้น พนักงานจะถูกจัดกลุ่มตามระดับความเสี่ยงด้านสุขภาพและคัดเลือกเข้าร่วมโปรแกรมการดูแลเชิงป้องกัน (Health Promotion Program) เช่น คลินิกงดบุหรี่สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดบุหรี่ คลินิกลดน้ำหนัก และการให้วัคซีนต่างๆ แก่กลุ่มที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค เช่น วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก โปรแกรม LGH นี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดปัญหาการขาด ลา มาสาย ลดค่าใช้จ่ายด้านประกันสุขภาพของพนักงาน และส่งต่อคุณภาพและการบริการที่ดีให้กับลูกค้าของบริษัทได้อีกด้วย 

โครงการคุณพระช่วย” (ทำงานได้บุญ) เป็นนวัตกรรมบริการที่มุ่งเน้นการดูแลและอุปัฏฐากพระสงฆ์อาพาธอย่างครบวงจร โดยคำนึงถึงการรักษา ส่งเสริม ป้องกัน และฟื้นฟูสุขภาพพระภิกษุสงฆ์และสามเณรที่อาพาธ ภายใต้มาตรฐานวิชาชีพและหลักพระธรรมวินัยใน 4 ด้าน ได้แก่ ด้านนโยบาย ด้านการอุปัฏฐาก ด้านสถานที่และสิ่งแวดล้อม รวมถึงด้านบุคลากร โรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน เป็นโรงพยาบาลเอกชนแห่งแรกที่ได้รับการรับรองในด้านนี้ และปัจจุบันได้ขยายการรับรองครอบคลุมถึง 6 แห่งในเครือโรงพยาบาลฯ เพื่อยกระดับการดูแลสุขภาพพระสงฆ์ในประเทศไทย 

“AI EKG” ใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์คลื่นไฟฟ้าหัวใจ เพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสุขภาพ เนื่องจากเรามีผู้มาตรวจสุขภาพปีละกว่าหนึ่งแสนคน เราใช้ข้อมูลเหล่านี้ให้ AI เรียนรู้ ลดเวลาการทำงานของแพทย์ และสามารถขยายผลไปยังรถตรวจสุขภาพ รถพยาบาล หรือโรงพยาบาลที่ไม่มีแพทย์เฉพาะทางด้านหัวใจ โดยสามารถส่งผลตรวจไปยังศูนย์กลาง ในอนาคตเราหวังว่านวัตกรรมนี้จะสามารถนำไปใช้ในระบบประกันสังคม เพื่ออำนวยความสะดวก ลดเวลาการตรวจโรคหัวใจของผู้ป่วยที่จำเป็นต้องตรวจโดยเครื่อง EKG ได้ 

สุดท้ายคือแอปพลิเคชัน Health Up” ที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานจากเดิม 8 ฟังก์ชัน เป็น 17 ฟังก์ชัน และกำลังขยายไปยังส่วนของผู้ป่วยใน เพื่อให้ครอบคลุมการดูแลสุขภาพทุกมิติ ตั้งแต่การป้องกัน การรักษา ไปจนถึงการฟื้นฟูสุขภาพ ‘Health Up’ ช่วยให้การใช้บริการด้านสุขภาพเป็นไปอย่างลื่นไหลไร้รอยต่อทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ด้วยฟีเจอร์ Multiple Account ที่สามารถดูข้อมูลสุขภาพของทุกคนในครอบครัวผ่านโทรศัพท์เครื่องเดียว ไม่ว่าจะเป็นผลเลือด ประวัติการแพ้ยา ผลเอกซเรย์ หรือแม้กระทั่งตารางนัดหมายแพทย์ และในกรณีฉุกเฉินก็ไม่จำเป็นต้องกลับไปที่โรงพยาบาลเดิมเพื่อขอข้อมูล แม้จะไม่ใช่ผู้ป่วยของโรงพยาบาลเราก็ยังสามารถใช้แอปฯ ในการอ่านข้อมูลสุขภาพได้เช่นกัน 

นอกจากที่กล่าวมา เครือโรงพยาบาลพญาไทเปาโล ยังร่วมพัฒนานวัตกรรมกับพันธมิตรภายนอก เช่น Start Up และมหาวิทยาลัยชั้นนำ เพื่อสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมที่เปิดกว้าง ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และต่อยอดนวัตกรรมทางการแพทย์ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมอย่างแท้จริง 

ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงบทบาทความเป็นผู้นำในการสร้างสุขภาพที่ดีให้กับประชาชน ช่วยให้พวกเขากลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่เพียงส่งผลดีต่อผู้ป่วยโดยตรงเท่านั้น แต่ยังขยายผลไปถึงผู้ดูแลและคนรอบข้างอีกด้วย 

เครือโรงพยาบาลพญาไทเปาโล มีหน่วยงานขับเคลื่อนนวัตกรรมสามหน่วยหลัก ได้แก่ CPRIA (Center of Private Research and Innovation Accelerator), PIL (Phyathai Paolo Innovation Lab) และ CIL (Center of Interactive Learning) ที่ขับเคลื่อนตั้งแต่งานวิจัยสู่การพัฒนาเป็นนวัตกรรม พร้อมส่งเสริมให้บุคลากรมีส่วนร่วม โดย PIL ทำหน้าที่สนับสนุนการพัฒนาแนวคิด ต้นแบบ และขยายผล พร้อมให้คำปรึกษาผ่าน PIL Hotline และประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกเครือโรงพยาบาล 

More From Author

เอ็นไอเอฉลองครบรอบ 20 ปีรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ เชิดชูเกียรตินวัตกรไทย เสริมแรงหนุนขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ชาตินวัตกรรม

ไทยเจียระไน กรุ๊ป ผนึกพันธมิตร เตรียมจัดงานใหญ่ระดับอาเซียน “Thailand Headlines Person of the Year Awards 2024” ครั้งที่ 8 เพื่อมอบรางวัลให้แก่บุคคลที่สร้างชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *