เชื่อว่านาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักร้านอาหารที่ชื่อ “ลูกไก่ทอง” LukKaiThong อย่างแน่นอน แต่ไม่ว่าคุณจะรู้จักร้านลูกไก่ทองในแง่มุมไหน วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักด้านหนึ่งของ “ลูกไก่ทอง” ที่ซ่อนจิตวิญญาณของ “คนรักอาหาร” ไว้ภายใต้แบรนด์หรูที่อยู่คู่กับนักชิมมากว่า 20 ปี

ร้านลูกไก่ทอง สาขาดิเอ็มควอเทียร์ ชั้น 6

ลูกไก่ทอง เป็นร้านอาหารไทยที่แตกไลน์มาจาก “ร้านไก่ทอง” เมืองทองธานี ที่มีชื่อเสียงมายาวนาน โดย “เชฟแสง” หรือ “แสงณรงค์ มนตรีวัต” ลูกชายเจ้าของร้านไก่ทอง ออกสร้างแบรนด์ของตัวเองเมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว และพัฒนาต่อยอดจนเติบโตอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีทั้งหมด 8 สาขา วันนี้เรามารีวิวกันที่สาขาเอ็มควอเทียร์ ซึ่งน่าจะเป็นสาขาแรกๆ ที่เปิดตัวในห้างหรู หลังจากร้านแรกที่ซอยทองหล่อหมดสัญญาไป

บรรยากาศภายในร้าน เรียบหรู นั่งสบาย

บรรยากาศร้านลูกไก่ทองจะเป็นสไตล์ Thai Royal เหมือนกันทุกสาขา ต่างกันที่รายละเอียดของพื้นที่ แต่ที่เหมือนกันคือ “กรงไก่” หน้าร้าน ที่บ่งบอกเอกลักษณ์ของร้านลูกไก่ทองนั่นเอง ลูกไก่ทองสาขาเอ็มควอเทียร์ ตั้งอยู่บนชั้น 6 บรรยากาศเรียบหรู นั่งสบาย แบ่งเป็น 3 โซน สามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ ด้านหน้าเป็นโซนที่นั่งแบบเปิดโล่งตรงบริเวณกรงไก่รูปโดม ภายในร้านแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นโซนรับประทานอาหารทั่วไป กั้นด้วยพาติชั่นโปร่งๆ สามารถมองทะลุถึงกันได้ มีตุ๊กตารูปไก่ตั้งเรียงราย หลากหลายรูปแบบ ทานไปดูไก่ไป เพลินๆ โซนนี้มีมุมให้เลือกนั่งหลากหลาย ทั้งมาเดี่ยว มาคู่ หรือมาเป็นกลุ่มใหญ่ก็ได้

ภายในร้านตกแต่งด้วย ไก่ รูปทรงต่างๆ

ส่วนด้านในสุดเป็นโซนที่ค่อนข้างไพรเวท มีโต๊ะกลม 3 โต๊ะ และโต๊ะไม้ขนาดยาว 8-10 ที่นั่ง ภายในห้องตกแต่งสไตล์ไทยโมเดิร์นที่มีกลิ่นอายของความหรูหรานิดๆ บรรยากาศเหมือนนั่งอยู่ในห้องรับแขก ผนังตกแต่งด้วยรูปภาพเก่าที่มีความหมาย มีโซฟาให้นั่งพักผ่อนอริยาบถ ผนังด้านในเป็นกระจกใสประดับด้วยม่านยาว เผยให้เห็นสวนสาธารณะสีเขียวสบายตา โดยมีฉากหลังเป็นตึกสูงของกรุงเทพฯ ตอนกลางคืนจะได้บรรยากาศของแสงสีกรุงเทพฯ ยามราตรี ห้องนี้สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องจัดเลี้ยงส่วนตัวได้ โดยปิดประตูที่เชื่อมกับด้านนอก จัดเลี้ยงได้ประมาณ 40 ที่นั่งเลยทีเดียว

บรรยากาศภายในห้องรับรองพิเศษ ตกแต่งสไตล์ไทยรอยัล
เปิดโล่งด้วยกระจกใสมองเห็นวิวกรุงเทพฯ

วันนี้เจ้าของร้านลูกไก่ทองออกมาต้อนรับคณะเราด้วยตัวเอง ถ้าเป็นยามปกติคงยากที่จะดึงตัวเขาออกจากถ้ำเอ้ยจากครัว เพราะ “เชฟแสง” บอกว่าตัวเองเป็นคน low profile ไม่ชอบออกสื่อ วันๆ อยู่แต่ในครัว และไม่ชอบเล่นโซเชียล วันนี้จึงนับเป็นโอกาสดีที่ได้พบเจ้าของร้านและเชฟผู้อยู่เบื้องหลังความอร่อยของร้านลูกไก่ทองอันเลื่องชื่อ เชฟที่ทำให้เราได้เห็นถึงจิตวิญญาณของคนทำอาหารอย่างแท้จริง

ห้องรับรองตกแต่งสไตล์ไทยรอยัล ประดับด้วยภาพเก่าที่ทรงคุณค่า

จากร้านไก่ทองส่งไม้ต่อถึงร้านลูกไก่ทอง

แรงบันดาลใจที่เชฟแสงออกมาเปิดร้านลูกไก่ทอง เกิดจากตัวเขาเองมีโอกาสได้ช่วยคุณแม่ทำร้านไก่ทองมาตั้งแต่เด็ก เป็นเด็กวิ่งซื้อของที่ตลาด ช่วยคุณแม่ในครัว จนได้รับการถ่ายทอดเคล็ดลับการปรุงอาหารจากคุณแม่ เมื่อแต่งงานมีครอบครัวจึงได้แยกตัวมาเปิดร้านอาหารของตัวเอง ส่วนชื่อร้านลูกไก่ทอง เป็นชื่อที่ลูกค้าเรียก เลยเอามาตั้งเป็นชื่อร้าน ร้านแรกอยู่ที่ซอยทองหล่อ พอหมดสัญญาจึงได้มาเปิดที่เอ็มควอเทียร์ หลังจากนั้นก็ขยายสาขาออกไปตามคำเรียกร้องของลูกค้า ปัจจุบันมีทั้งหมด 8 สาขา สาขาล่าสุดคือสนามบินสุวรรณภูมิ

บรรยากาศการตกแต่งเหมือนบ้านสไตล์คลาสสิค เพดานเป็นโดม 6 เหลี่ยม ประดับด้วยโคมไฟ

คุณแสงจะเป็นคนดูแลร้านทุกทุกสาขาด้วยตัวเอง โดยจะแวะเวียนไปตามสาขาต่างๆ โดยมีภรรยาเป็นผู้ช่วยบริหารจัดการ ทุกวันนี้เขายังลงมือทำอาหารเอง แม้จะถ่ายทอดเคล็ดลับการทำอาหารให้กับเชฟในร้านแล้วก็ตาม โดยคุณแสงบอกว่าจะรับคนที่ไม่มีประสบการณ์การทำอาหารแล้วมาฝึกเอง “ลูกน้องเราฝึกเองทุกคน เราไม่รับคนเป็นแล้ว” นั่นทำให้รสชาติอาหารของร้านลูกไก่ทอง มีเอกลักษณ์ในแบบฉบับของตัวเองทุกสาขา

แสงณรงค์ มนตรีวัต เชฟและเจ้าของร้านลูกไก่ทอง

Beyond & Above รสชาติเหนือระดับ แบบฉบับของลูกไก่ทอง

Beyond & Above เป็นแนวคิดในการทำร้านอาหารของคุณแสง ตามสโลแกนของทางร้าน คือ “รสชาติเหนือระดับ แบบฉบับของลูกไก่ทอง” คุณแสงบอกว่า “เราต้องทำให้เหนือกว่าคนอื่น เราไม่ทำสแตนดาร์ด เพราะราคาเราไม่ใช่ราคาตลาด ราคาเราแพงกว่าคนอื่น แต่ลูกค้าก็สั่งโดยไม่ต้องดูเมนูเลย เพราะเขามั่นใจในแบรนด์เรา”

ความพิเศษที่ทำให้ร้านลูกไก่ทองแตกต่างจากร้านอาหารทั่วไป นอกจากเจ้าของจะเป็นเชฟเองแล้ว เขายังใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ เทคนิคการปรุงอาหาร “เราไม่เคยต่อรองกับแม่ค้า เช่น ผักบุ้ง สมมติ 40 บาท เราให้ 60 บาท แต่ผมขอห้ามเล็กกว่าหลอด แล้วผมขอเปลี่ยนได้ ซัพพลายเออร์ที่อยู่กับเราทุกวันนี้จะเปลี่ยนคืนได้ตลอด แต่ไม่ค่อยเปลี่ยนคืน เพราะรู้ใจกันแล้ว อย่างหมูสามชั้น สมมติราคาตลาด 200 บาท แต่เราจะให้เพิ่มอีก 50 บาท แต่ขอสามชั้นที่เหมือนกัน สั่ง 500 – 1,000 กก. ต้องเหมือนกัน เพราะหมูสามชั้น มันน้อย ราคาจะแพงกว่า แต่จะได้หมูหน้ากว้าง วางออกมาแล้วสวย นี่คือรายละเอียดของความแพง”

เชฟแสงลงมือปรุงผัดไทยด้วยตัวเอง

คุณแสงยังบอกอีกว่า “สิ่งที่เราให้ลูกค้าคือคุณภาพ เราไม่เคยลดคุณภาพมีแต่เกิน ฉะนั้นลูกค้าประจำที่เคยกินกับเรามา 22 ปี เขารู้อยู่แล้ว เราไม่เคยมีโปรโมชั่น ไม่เคยลดราคา เราจะซื้อของเจ้าเล็กๆ เพราะถือว่าเราช่วยเค้าด้วย เจ้าเล็กจะได้เป็นเจ้าใหญ่ในอนาคต” นั่นคือปรัชญาในการทำร้านอาหารของเชฟแสง จะไม่ต่อรองเรื่องคุณภาพเด็ดขาด “นี่คือเหตุผลว่าทำไมอาหารเราราคาแพง เพราะมันมีรายละเอียดเยอะ” เขาทำให้เรารู้สึกว่าการทำอาหารเป็นเหมือนงานศิลปะ ที่ต้องใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ ถ้าผิดเพี้ยนไปเพียงเล็กน้อยมีผลต่อรสชาติอาหาร

เชฟให้การต้อนรับคณะเราอย่างอบอุ่น

มาดูเมนูแนะนำของทางร้านกันบ้าง เชฟแสงบอกว่าถ้าเป็นคนไทย จะชอบอาหารรสจัด เช่น แกงพริกขึ้นสวรรค์ เคาหยก จี๊ผา + ส้มตำเชียงใหม่ และเมนูซิกเนเจอร์ ราดหน้าฮ่องกง เป็นต้น ส่วนลูกค้าต่างชาติจะนิยมสั่ง ผักบุ้งไม่ลอยผ้า ต้มยำกุ้ง ปูผัดผงกระหรี่ กุ้งอบวุ้นเส้น แกงมัสมั่น พะแนง เป็นต้น ตบท้ายด้วยของหวานที่คนไทยและต่างชาติชื่นชอบนั่นคือ “ปังชา” ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของร้านลูกไก่ทองและปังชา

กระทงไก่ทอง

เริ่มต้นด้วยอาหารทานเล่น “กระทงไก่ทอง” เป็นเมนูขายดีของทางร้าน ตัวกระทงทองของที่นี่จะไม่เหมือนใคร คือเป็นแป้งหนากรอบรูปกระทง ไส้เป็นเป็นไก่ฉีกคลุกเคล้าน้ำสลัดเข้มข้น รสชาติคล้ายซาวครีม ทานคู่กันกรุบกรอบดี

เกี๊ยวกุ้งบัตเตอร์ฟลาย

เป็นอีกเมนูทานเล่น เสิร์ฟมาในรูปทรงผีเสื้อ แต่เราว่าคล้ายลูกไก่กางปีกมากกว่า แป้งเกี๊ยวกรอบๆ ห่อด้วยไส้กุ้งทรงเครื่อง ทานคู่กับน้ำจิ้มบ๊วย

แกงพริกขึ้นสวรรค์ปลาเต๋าเต้ย

ใครชอบอาหารรสจัดแนะนำให้สั่งเมนูนี้ รับรองขึ้นสวรรค์สมชื่อ รสชาติจะคล้ายแกงป่า มีความเผ็ดร้อนของเครื่องแกง ส่วนเนื้อปลาทางร้านใช้ “ปลาเต๋าเต้ย” ซึ่งเป็นปลาชั้นดี หายาก เนื้อสัมผัสนุ่มละมุนลิ้น พริกแกงสูตรของทางร้าน ใช้วิธีโขลกหยาบแบบโบราณ ทำให้น้ำแกงออกมามีความเข้มข้นและกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ บอกเลยว่าพริกแกงที่นี่เขาโขลกด้วยมือ สดใหม่ทุกวัน ทานกับข้าวสวยร้อนๆ ฟินเลย

เคาหยก

เมนูนี้ใครไม่สั่งถือว่าพลาด เพราะเป็นหนึ่งในเมนู Michelin Guide 5 ปีซ้อน ปี 2018-2022 ของร้านลูกไก่ทอง “เคาหยก” เป็นอาหารจีนกวางตุ้งยอดนิยมของภาคใต้ ที่ประวัตยาวนานกว่า 100 ปี เคาหยกคือหมูสามชั้นที่นำมาตุ๋นจนนุ่มละลายในปาก แล้วนำมาคั่วกับผักดองเค็มจนมีกลิ่นหอม เป็นเมนูที่กรรมวิธีการปรุงพิถีพิถันมาก ใบผักกาดดองเค็มแห้งหรือไชกัวของที่นี่ผ่านการล้างน้ำเอาเกลือออก ทำให้ไม่เค็มจนเกินไป ทานคู่กับหมูสามชั้นเข้ากันดี เป็นเมนูที่ขายดีทั้งทานที่ร้านร้านแล้วเมนูเดลิเวอรี่

ผัดผักบุ้งไม่ลอยฟ้า

เมนูเหมือนจะธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา เพราะทางร้านเลือกใช้ผักบุ้งที่ปลูกโดยชุมชนพื้นบ้าน เพื่อสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น เป็นผักบุ้งปลอดสาร ซึ่งในหนึ่งปีจะมีเพียงหนึ่งฤดูฝนที่ต้นผักบุ้งจะโตและอวบน้ำมากกว่าที่เคย โดยจะคัดต้นผักบุ้งที่มีอายุ 28 วัน ซึ่งเป็นช่วงที่โตสมบูรณ์ที่สุด นำมาผัดด้วยเทคนิคพิเศษ ไม่อมน้ำมัน แต่ยังคงความสดและกรอบของผักบุ้ง เป็นเมนูขายดีประจำร้านที่คนไทยและต่างชาติชื่นชอบ

ผัดไทยรอยัลปูม้าเผา

ผัดไทยสูตรต้นตำรับจากคุณย่าที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น วันนี้เราเปลี่ยนจากผัดไทยกุ้งแม่น้ำเผาแบบเดิมๆ มาเป็นผัดไทยปูม้าเผา ใช้น้ำมะขามเคี่ยวสูตรโบราณ ผัดคลุกเคล้าเข้ากับเส้นจนเหนียวนุ่ม ไม่แฉะ ปรุงจานต่อจาน รสชาติเข้าเส้นและเนื้อปู เสิร์ฟมาบนชามศิลาดลรูปเรือหงส์ รสชาติกลมกล่อม บอกเลยจานนี้ต้องสั่ง

ราดหน้าฮ่องกง

อีกหนึ่งเมนูขึ้นชื่อของร้านลูกไก่ทอง คืดราดหน้าฮ่องกง ซึ่งใช้เทคนิคพิเศษในการผัดเส้นด้วยไฟแรง จนเส้นเกรียมหอมกลิ่นควันกระทะ ซึ่งหาทานยากมาก ราดหน้าหมู ใช้หมูสดหั่นด้วยมือ จะได้หมูชิ้นโต เต็มคำ นำไปหมักจนพองนุ่ม เวลากัดเข้าไปได้รสสัมผัสถึงเนื้อหมูหนานุ่ม จุ๊ยซี่มาก และราดหน้ากุ้ง กุ้งตัวใหญ่ ไม่ผ่านการแช่แข็ง เนื้อเด้ง ทานกับคะน้าฮ่องกงสดกรอบมาก ขนาดวางทิ้งไว้จนเย็นแล้วยังหอมและอร่อยอยู่เลย น้ำราดหน้าสูตรพิเศษ รสชาติกลมกล่อม แทบไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มเลย เผลอแปบเดียว หมดจาน ราดหน้ามี 3 ไซซ์ให้เลือกนะคะ เล็ก กลาง ใหญ่

ไข่เจียวเนื้อปู

เมนูไข่เจียวเนื้อปู เนื้อปูแน่นๆ แทรกอยู่ทุกชั้นของเจียวไข่ ตักเข้าปากแต่ละคำได้ความนุ่มละมุนของไข่เจียวและเนื้อปูเป็นก้อนๆ ฟินมาก ข้างในจะมีความลาวานิดๆ เนื้อปูยังเป็นก้อนๆ มีเทคเจอร์ของเนื้อปูอยู่ ไข่เจียวเนื้อปูทอดด้วยเทคนิคพิเศษเป็นก้อนกลมอัดไส้เนื้อปูแน่นแบบไม่อมน้ำมัน เป็นอีกหนึ่งเมนูสุดยอดของลูกไก่ทอง ถ้ามีโอกาสต้องมาจัดอีกสักครั้ง

จี๊ผา + ข้าวเหนียว

จี๊ผา หรือหมูทอดสูตรฮ่องกง ใช้เนื้อหมูคัดส่วนพิเศษ เป็นเนื้อหมูสดไม่แช่แข็ง หั่นชิ้นหนาพอดี นำไปปรุงรสแล้วทอดจนกรอบนอก นุ่มใน ทานคู่กับข้าวเหนียวร้อนๆ และน้ำจิ้มแจ่วสุดแซ่บ ถ้าจะให้ดีแนะนำให้สั่ง “ส้มตำเชียงใหม่” มาทานคู่กัน เพอร์เฟ็กต์!

มัสมั่นเป็ด+โรตีนคร

เป็นเมนูที่ค่อนข้างแปลก เพราะปกติจะเคยทานแต่มัสมั่นเนื้อหรือมัสมั่นไก่ วันนี้เปลี่ยนบรรยากาศมาลองทานมัสมั่นเป็ดดู มัสมั่นเนื้อเป็ดชิ้นโต เสิร์ฟมาในชามลายเบญจรงค์ แค่เห็นสีสันความเข้มข้นของเครื่องแกงก็รู้แล้วว่าต้อง “ถึงเครื่อง” มัสมั่น  ลองตักเนื้อเป็ดเข้าปากคำแรก เนื้อเป็ดนุ่มมาก ไม่มีกลิ่นสาบ เขาเอาเนื้อเป็ดไปตุ๋นจนเปื่อยก่อน ผสมผสานกับเครื่องเทศ เครื่องแกง ปรุงจนเข้าเนื้อเป็ด รสชาติถึงเครื่องแกงมัสมั่น หอมมันจากกะทิคั้นสด เสิร์ฟมาคู่กับโรตีนคร เข้ากันมาก ใครชอบแกงมัสมั่นไทย ต้องลองสั่ง!

ปังชาไทย

ตบท้ายด้วย “ปังชา” เมนูขนมหวานขึ้นชื่อของร้าน การันตีความอร่อยด้วยมิชลินไกด์ 6 ปีซ้อน (2018-2023) เป็นขนมหวานสไตล์ไทยที่มาพร้อมเอกลักษณ์โดดเด่น ด้วยน้ำแข็งที่ไสออกมาเป็นปุยนุ่น ราดด้วยชานมสูตรเข้มข้น ที่ใช้ใบชาถึง 5 ชนิด เพื่อให้คุณเข้าถึงชาไทยแบบโบราณ เพิ่มความหวานมันด้วยนมข้นและวิปปิ้งครีม ตามด้วยท็อปปิ้ง 4 ชนิด คือ ไข่มุกชาดำ ให้ความหนึบหนับ หอมกลิ่นชาดำและน้ำผึ้ง ไข่มุกแก้วและไข่มุกชาไทย ให้ความกรุบกรอบเวลาเคี้ยวเพลินมาก ปิดท้ายด้วยอัลมอนด์สไลด์อบกรุบๆ เสิร์ฟมาบนชามทองเหลืองที่สั่งทำเป็นพิเศษ และไดร์ไอซ์ เรียกเสียงฮือฮาถึงโต๊ะเลย นอกจากนี้ยังมี ปังนมเย็น ปังมัลเบอร์รี่ และปังโอวัลติน ให้ลูกค้าเลือกด้วยนะคะ

ร้านลูกไก่ทองยังมีเมนูเครื่องดื่มชาอีกมากมายให้คุณได้ลิ้มลอง ไม่ว่าจะเป็น ชาปูชิโน่ ร้อน-เย็น ชาไทยท็อปด้วยวิปปิ้งครีม เข้มข้นหวานมัน หรือชาปูชิโน่ + ไข่มุกชาดำ ให้ความหอมของชาและความหนึบหนับของไข่มุกดำ  ชาลูกไก่ทอง + ไข่มุก 3 ชาติ ชาดำ + ไข่มุก 3 ชาติ ชามะนาว + ไข่มุก 3 ชาติ ชาลิ้นจี่ลอยแก้ว ชาสับปะรด ชาลูกบ๊วย เป็นต้น

คุณแสงเล่าว่า “ปังชา” เป็นไอเดียของภรรยาคือ “คุณแก้ม กาญจนา ทัตติยกุล” เริ่มต้นจากเป็นขนมหวานที่ทำให้ลูกค้าทานในร้านอาหารลูกไก่ทอง ต่อมาลูกค้าติดใจและกลับมาทานอีก จึงปิ๊งไอเดีย เปิดเป็นร้านปังชาคู่ไปกับร้านอาหารลูกไก่ทอง และขยายสาขาไปในห้างสรรพสินค้า เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่าย รวมแล้ว 10 สาขา ด้วยความตั้งใจของคุณแก้มที่อยากให้ลูกค้าได้ลิ้มลองอรรถรสชาไทยแท้ๆ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่และชาวต่างชาติ เพื่อสืบสานและส่งต่อวัฒนธรรมการดื่มชาไทยจากรุ่นสู่รุ่น

ชาลูกบ๊วย
ชาลูกไก่ทอง ไข่มุก 3 ชาติ

จุดเด่นของปังชาที่นี่ คือ ความเข้มข้น โดยนำชา 5 ชนิดมาเบลนจนได้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของทางร้าน ซึ่งชาแต่ละตัวจะให้สี ให้กลิ่น และให้รสชาติ ฝาด ขม ไม่เหมือนกัน “ภรรยาผมเป็นคนรักชามาก เขาจะเข้าใจและเข้าถึงชา และสามารถควบคุมวัตถุดิบในแต่ละตัว เพื่อให้ได้รสชาติหอมเข้มข้นเฉพาะของทางร้าน แม้จะทิ้งไว้นาน 12 นาที รสชาติก็ไม่เปลี่ยน”

ชาลำไยลอยแก้ว
Thai Fruit Black Thai Tea ชาไทย ผลไม้

ร้านอาหารลูกไก่ทอง อีกหนึ่งความภาคภูมิใจของอาหารไทย ปรุงสดใหม่ทุกจานโดยเชฟเจ้าของร้าน ที่มุ่งมั่งรังสรรค์เสน่ห์อาหารไทยให้เป็นที่รู้จักระดับสากล ด้วยความพิถีพิถันทุกขั้นตอน ใส่ใจทุกรายละเอียด ใช้วัตถุดิบคุณภาพ ปรุงสดใหม่ เสิร์ฟด้วยหัวใจในทุกจาน เสมือนคุณคือหนึ่งในครอบครัวของเรา “อยากให้มาลองทานอาหารที่ทำด้วยความรักและความเข้าใจ และใช้วัตถุดิบที่เหมาะสมรสชาติจะเป็นยังไง” สำหรับเราลองทานแล้วบอกเลยว่า…รสชาติเหนือระดับแบบฉบับลูกไก่ทองจริงๆ

ชาปูชิโน

สัมผัสประสบการณ์ความอร่อยได้ที่ ร้านอาหารลูกไก่ทอง 8 สาขาใกล้คุณ

Suvarnabhumi International Airport (Gate F)

Donmueng airport terminal 2

Chic Republic Bangna

Chic Republic Ramintra

ICON SIAM 6th floor

The EmQuartier 6th floor

Siam Paragon 4th floor

Terminal 21 Rama 3

Map สาขา Click: https://bit.ly/3z3ZaGR

ข้อมูลการติดต่อ

Website : www.lukkaithong.com

IG : lukkaithong_restaurant

FB : Lukkaithong – ลูกไก่ทอง Thai Royal Restaurant

Line@: @lukkai_delivery

https://lin.ee/wJP7g3a

 096-636-2929

By admin

สนใจโฆษณาติดต่อ คุณจันทร์แรม โทร 0917233792

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข่าวเด่น