นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารโครงการการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมืองเป็นประธานการประชุมติดตามผลการดำเนินงานผ่านระบบทางไกลออนไลน์ ZOOM Cloud Meeting โดยมี นายกษิดิ์เดชธนทัต เสกขุนทด ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนฯ ระดับชุมชนและท้องถิ่น (Green Community) นายณฐกร สุวรรณธาดา คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายนำชัย แสนสุภา นายกสมาคมภูมิสถาปนิกประเทศไทย ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนการเคหะแห่งชาติ พร้อมทั้งหน่วยงานทั้งภาคราชการ ภาคสถาบันการศึกษา ภาคเอกชน และส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และมี นายจิตติศักดิ์ ศรีปัญญา ผู้อำนวยการกองนโยบายเทคโนโลยีเพื่อการเกษตรและเกษตรกรรมยั่งยืน เป็นเลขานุการการประชุม

ทั้งนี้ นายอลงกรณ์ กล่าวในที่ประชุม รับทราบรายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินงานการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมืองระดับจังหวัด ซึ่งได้มีการขับเคลื่อนโครงการในพื้นที่เป้าหมายเพื่อดำเนินการมีจำนวน 591 แห่ง ใน 62 จังหวัดประกอบด้วย (1) พื้นที่วัด จำนวน 19แห่ง (2) พื้นที่โรงเรียน สถานศึกษาและมหาวิทยาลัย จำนวน 372 แห่ง (3) พื้นที่โรงพยาบาล จำนวน 13 แห่ง (4) พื้นที่ชุมชน จำนวน 90 แห่ง และ (5) พื้นที่อื่น ๆ ได้แก่ พื้นที่ของหน่วยงานราชการและพื้นที่เอกชน จำนวน 97 แห่ง

ทั้งนี้ถือว่าพอใจต่อความก้าวหน้าของโครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมืองระดับจังหวัด โดยยกตัวอย่างรายงานการดำเนินงานของสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งได้นำเสนอผลงานการขับเคลื่อนโครงการต่อที่ประชุมดังนี้ 

1.โครงการมหาวิทยาลัยสีเขียว (Green Campus) มีแปลงปฏิบัติการวิจัยพืชสวน พืชไร่ ไม้ดอกไม้ประดับ และสิ่งแวดล้อม รวม 74 ไร่ และฐานการเรียนรู้ต่าง ๆ เพื่อเป็น “แหล่งเรียนรู้ สร้างรายได้เสริม พัฒนาอาชีพอย่างยั่งยืน”  

2.โครงการโรงเรียนสีเขียว (Green School) “เก่ง ดี มีทักษะ (ทักษะอาชีพและทักษะชีวิต) มีสุขภาพดี” โดยฝึกการทำปุ๋ยชีวภาพเพื่อการเกษตรกรรมสาหรับการปลูกผักปลอดสารพิษ การปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์ น้ำนิ่ง หรือการปลูกพืชแบบไร้ดิน เป็นการปลูกพืชในสารละลายธาตุอาหารพืช การเลี้ยงปลาดุก และกบในวงบ่อ รวมถึงการเลี้ยงไก่ไข่ ซึ่งผลผลิตที่ได้ทั้งในส่วนของพืชผัก ปลาดุก กบและไข่ไก่นำมาใช้ในโครงการอาหารกลางวันสำหรับนักเรียนในโรงเรียน และนำส่วนที่เหลือจำหน่าย เป็นการสร้างรายได้ให้กับนักเรียนและเป็นการสร้างนิสัยในการออมทรัพย์โดยฝากไว้กับธนาคารของโรงเรียน ซึ่งเป็นกิจกรรมสร้างทักษะอาชีพแก่นักเรียนที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งและเป็นแบบอย่างให้กับโรงเรียนที่สนใจได้มาเรียนรู้

3. โครงการวัดสีเขียว (Green Temple) “วัด วนเกษตร สวนสมุนไพรในเมือง” สวนพฤกษศาสตร์สมุนไพรวัดคุ้งตะเภา หรือ ศูนย์ศึกษาสมุนไพรในวัดประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นสวนพฤกษศาสตร์ชุมชนขนาดเล็ก เป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาชาวบ้านในด้านการ อนุรักษ์สมุนไพร

4.โครงการโรงพยาบาลสีเขียว (Green Hospital) “สุขภาพและความสุขอย่างยั่งยืน” โดยให้บุคลากรทางการแพทย์หันมาทาการเกษตรปลูกพืชผักปลอดภัย –อินทรีย์ ส่งให้โรงครัวและจาหน่ายให้แก่ผู้ที่มาใช้บริการในโรงพยาบาล เพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร และสุขภาพที่ดีของครอบครัว อีกทั้งความก้าวหน้าผลการดำเนินงานฯ ของจังหวัดชลบุรี จังหวัดระนอง และจังหวัดนครศรีธรรมราช และความก้าวหน้าของคณะทำงานฯ ในพื้นที่การเคหะแห่งชาติ (Green National Housing Authority)

นอกจากนี้ยังรับทราบความก้าวหน้าผลการดำเนินงานฯ ของจังหวัดชลบุรี ที่มีการดำเนินกิจกรรมรวมพลังคนชลบุรี ปลูกป่า ทาโป่ง “เหนื่อยนี้เพื่อช้าง…เพื่อคนชลบุรี” ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ, โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน ภายใต้กิจกรรมฝึกอาชีพ “เพาะพันธุ์ไม้พื้นถิ่น สร้างอาชีพ สร้างรายได้”, กิจกรรมการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมืองโครงการขยายผลจิตอาสาสานักงาน กศน. ฯลฯ ผลการดำเนินงานของจังหวัดระนอง มีการดำเนินการโครงการเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในวัด, โครงการปลูกป่าเพื่ออนุรักษ์ฟื้นฟูป่าต้นน้า ป่าชายเลนและป้องกันไฟป่า จังหวัดระนอง, โครงการส่งเสริมการปลูกไม้เศรษฐกิจในพื้นที่ปลูกไม้ยางพารา และพื้นที่เกษตรกรรมจังหวัดระนอง, กิจกรรมวันต้นไม้ประจำปีของชาติ พ.ศ. 2565 ฯลฯ

ผลการดำเนินงานของจังหวัดนครศรีธรรมราช มีการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการปลูกดาวเรือง กิจกรรมปลูกไม้ยืนต้นเพิ่มพื้นที่สีเขียว บริเวณริมเขื่อนคลองฆ่าสัตว์ ฯลฯ และความก้าวหน้าของคณะทำงานพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในพื้นที่โรงเรียนและวิทยาลัยซึ่งดำเนินการโรงเรียนสีเขียวต้นแบบเสร็จแล้วกำลังขยายผลไปทุกภาคและรายงานของคณะกรรมการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในพื้นที่การเคหะแห่งชาติ (Green National Housing Authority) ซึ่งมีการบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่าย เข่นการรับมอบเมล็ดพันธุ์ปันสุขจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่งมอบให้กับชุมชนทำโครงการนำร่องและขยายผลไปยังชุมชนอื่น ๆตลอดจนร่วมมือกับบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด ในการดำเนินโครงการ เซลล็อกซ์ “ปลูกต้นไม้ใหญ่ให้บ้านเรา” เป็นการเพิ่มต้นไม้ใหญ่ ในชุมชน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ในโครงการบ้านเอื้ออาทรบางโฉลง ส่วนกรมพัฒนาฝีมือแรงงานกระทรวงแรงงาน ดำเนินการติดตั้ง Smart Farming ในโครงการบ้านเอื้ออาทรเมืองใหม่บางพลี, มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีช่วยออกแบบและปรับปรุงพื้นที่แปลงเกษตร ในโครงการบ้านเอื้ออาทรรังสิตคลอง 10/2 และเทศบาลเมืองใหม่บางบัวทองในการปรับสภาพภูมิทัศน์ภายในชุมชน ในโครงการบ้านเอื้ออาทรบางบัวทอง 2

นายอลงกรณ์ บอกอีกว่าได้เน้นย้ำความสำคัญของการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมืองเพราะทุกเมืองทั่วโลกขาดความมั่นคงทางอาหารและมีแต่ป่าคอนกรีตจึงต้องเพิ่มพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้นลดภาวะโลกร้อนและส่งเสริมเกษตรกรรมในเมืองเพื่อลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ครัวเรือนยกระดับคุณภาพชีวิตประขาชนและคุณภาพของเมืองและชุมชนควบคู่กับการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในชนบทซึ่งได้ตั้งคณะกรรมการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนระดับตำบล 7,250ตำบลไปแล้วทุกจังหวัด เป็นการส่งเสริมทั้ง3สาขาเกษตรคือพืช ประมงและปศุสัตว์ตามศักยภาพและอัตลักษณ์ของแต่ละตำบลแต่ละชุมชนด้วย

By admin

สนใจโฆษณาติดต่อ คุณจันทร์แรม โทร 0917233792

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข่าวเด่น