สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) กระทรวงอุตสาหกรรม เดินหน้าขับเคลื่อนมาตรการเพิ่มอ้อยสด ลดการเผา และช่วยแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 อย่างเข้มข้นเป็นระบบ ในฤดูการผลิตปี 2568/2569 เพื่อส่งเสริมการตัดอ้อยสดคุณภาพดี การใช้ประโยชน์จากใบและยอดอ้อยเพื่อเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร ยกระดับคุณภาพอากาศ และปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

นายใบน้อย สุวรรณชาตรี เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า “ฤดูการผลิตปี 2567/2568 ที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวสำคัญในการลดอ้อยเผาอย่างเป็นรูปธรรม สามารถลดสัดส่วนอ้อยเผาเหลือเพียง 14.86% ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือจากทั้งเกษตรกร โรงงานน้ำตาล และหน่วยงานทุกภาคส่วน ที่ใส่ใจและห่วงใยสิ่งแวดล้อม ลดการเผาอ้อยลงได้อย่างเป็นรูปธรรม ร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายสู่ “อุตสาหกรรมสีเขียว” ตามนโยบาย “MIND as One” ของ ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งประสานพลังทุกภาคส่วนทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อผลลัพธ์ที่ยั่งยืน

สำหรับการดำเนินงานในฤดูการผลิตปี 2568/2569 จะมีการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ครอบคลุมทั้งด้านกฎหมาย การเงิน เทคโนโลยี และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยกำหนดให้โรงงานน้ำตาลรับอ้อยเผาได้ไม่เกิน 20% ต่อวัน และทั้งฤดูการผลิตต้องไม่เกิน 10% พร้อมทั้งกำหนดให้โรงงานหยุดรับอ้อยระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2568 – วันที่ 4 มกราคม 2569 และรับเฉพาะ “อ้อยสด” ในช่วงต้นฤดูหีบ เพื่อเพิ่มอากาศบริสุทธิ์ให้กับประชาชนชาวไทย และรักษาบรรยากาศที่ดีให้กับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ รวมถึงการทบทวนและปรับปรุงระเบียบการตัดอ้อยและการส่งอ้อยให้แก่โรงงานให้เข้มงวดและทันสมัยยิ่งขึ้น และออกระเบียบการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตน้ำตาลทรายของโรงงาน ซึ่งจะสามารถควบคุมคุณภาพวัตถุดิบได้ตั้งแต่ต้นทาง

นายใบน้อย กล่าวเพิ่มเติมว่า สอน. ยังได้จัดทำมาตรการที่สนับสนุนเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ครอบคลุมทั้งมาตรการทางการเงินและแรงจูงใจ ทั้งการสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำปี 2568 – 2570 วงเงินรวม 6,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเกษตรกรบริหารจัดการแหล่งน้ำและจัดซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร พร้อมสนับสนุนด้านนโยบาย เช่น เงื่อนไข BOI และเสนอยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับรถตัดอ้อยและเครื่องสางใบอ้อย การลดหย่อนภาษีแก่ผู้ประกอบการที่ร่วมกิจกรรมลดการเผาอ้อย การสนับสนุนด้านงบประมาณเพื่อจูงใจให้เกษตรกรตัดอ้อยสดคุณภาพดี 100% ส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าของใบและยอดอ้อยในการแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงชีวมวล และลดของเหลือทิ้งในไร่อ้อยและสร้างอาชีพสำรองแก่ชุมชน

การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นปัจจัยสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของไทย โดย สอน. ยังคงมุ่งวิจัยและพัฒนาต้นแบบเครื่องจักรและเทคโนโลยีใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเพาะปลูก เก็บเกี่ยว และจัดการผลผลิต รวมทั้งส่งเสริมการสร้างความตระหนักรู้และระบบติดตามประเมินผลอย่างต่อเนื่อง ผ่านการให้ความรู้เกษตรกรเกี่ยวกับการตัดอ้อยสดสะอาด การอบรมถ่ายทอดเทคโนโลยี และการสร้างเครือข่ายชุมชนคนตัดอ้อยสดคุณภาพดี และติดตามผลผ่านกลไกระดับจังหวัด ด้วยมาตรการที่เข้มแข็ง ครอบคลุม และทำงานร่วมกันทุกภาคส่วน สอน. เชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของไทยจะก้าวสู่การผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เกษตรกรมีมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยการมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากอ้อยสด ขณะที่คนในชุมชนสูดอากาศที่ดีและบริสุทธิ์ พร้อมสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้อุตสาหกรรมอ้อยไทยในระยะยาว

“นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 มีมติเห็นชอบวันเปิดหีบอ้อยของ 58 โรงงานน้ำตาลทั่วประเทศ ฤดูการผลิตปี 2568/2569 ซึ่งแบ่งกลุ่มตามเปอร์เซ็นต์โรงงานน้ำตาลรับอ้อยเผาเข้าหีบ ในฤดูการผลิตปี 2567/2568 ออกเป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่ม 1 : อ้อยเผาเข้าหีบน้อยกว่าหรือเท่ากับ 5.00% เปิดหีบอ้อยตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2568 กลุ่ม 2 : อ้อยเผาเข้าหีบตั้งแต่ 5.01% – 15.00% เปิดหีบอ้อยตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2568 กลุ่ม 3 : อ้อยเผาเข้าหีบตั้งแต่ 15.01% – 25.00% เปิดหีบอ้อยตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2568 และกลุ่ม 4 : อ้อยเผาเข้าหีบตั้งแต่ 25.01% ขึ้นไป เปิดหีบอ้อยตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2569 และ กอน. ยังได้เห็นชอบการกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทราย

ขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 2567/2568 เฉลี่ยทั่วประเทศในอัตรา 1,152.62 บาทต่อตันอ้อย ณ ระดับความหวานที่ 10 ซี.ซี.เอส. และกำหนดอัตราขึ้น/ลง ของราคาอ้อย เท่ากับ 69.16 บาทต่อ 1 หน่วย ซี.ซี.เอส. และผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทราย 493.89 บาทต่อตันอ้อย” นายใบน้อย กล่าวทิ้งท้าย






Visit Today : 306
This Month : 6341
Total Visit : 2286044