BEDO และ UNDP จัด“BioMart Hua Hin 2025” ชูประจวบคีรีขันธ์สู่พื้นที่ต้นแบบการท่องเที่ยวชีวภาพ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนฐานรากอย่างยั่งยืน

สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) หรือ BEDO จับมือกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย (UNDP Thailand) ประกาศจัดงาน “Bio Mart Hua Hin 2025” มหกรรมแสดงและจำหน่ายสินค้าชีวภาพและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ระหว่างวันที่ 1 – 5 ตุลาคม 2568 ณ ศูนย์การค้า Market Village Hua Hin จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “โครงการบูรณาการการท่องเที่ยวบนพื้นฐานความหลากหลายทางชีวภาพเพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน” ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก (GEF) มีเป้าหมายเพื่อสร้างต้นแบบการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน 

ดร.ธนิต ชังถาวร ผู้อำนวยการ BEDO กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของโครงการว่า BEDO มุ่งมั่นขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพของประเทศ โดยมีหัวใจสำคัญคือการสร้างสมดุลระหว่างการใช้ประโยชน์และการอนุรักษ์ ซึ่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ไม่เพียงแต่เป็นเมืองท่องเที่ยวชายทะเลที่มีชื่อเสียง แต่ยังเป็นคลังมหาสมบัติด้านความหลากหลายทางชีวภาพที่สำคัญของประเทศ งาน BioMart Hua Hin 2025 จึงไม่ได้เป็นเพียงงานแสดงสินค้า แต่เป็นเวทีสำคัญในการนำเสนอศักยภาพของผู้ประกอบการท้องถิ่นที่ได้นำความหลากหลายทางชีวภาพมาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์และบริการ 

“เราต้องการพิสูจน์ให้เห็นว่า ‘การอนุรักษ์’ สามารถสร้าง ‘รายได้’ ที่มั่นคงให้กับชุมชนได้จริง เป็นการเปลี่ยนต้นทุนทางธรรมชาติให้กลายเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจที่จับต้องได้ เราเชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะเป็นต้นแบบที่แข็งแกร่งในการสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้แก่ชุมชน และรักษาความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศไว้สำหรับคนรุ่นหลังต่อไปในอนาคต” 

นีฟ คอลิเออร์-สมิธ ผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทยกล่าวถึงบทบาทของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติในการสนับสนุนบทบาทของประเทศไทยในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวที่โอบรับผู้คนและธรรมชาติ เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals)

“การท่องเที่ยวเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการสร้างความมั่งคั่งให้กับประเทศไทย ซึ่งโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ทำงานร่วมกับประเทศไทยเพื่อให้มั่นใจว่าการลงทุนในภาคการท่องเที่ยวนั้นควบคู่ไปกับธรรมชาติ ที่จะช่วยอนุรักษ์สัตว์ป่าและการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น โดยประสบการณ์จากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับจังหวัดอื่น ๆ รวมถึงเมืองท่องเที่ยวทั่วโลกเห็นแนวทางการท่องเที่ยวที่สามารถสร้างประโยชน์ทั้งต่อผู้คนและธรรมชาติไปพร้อมกันได้”

โดยในปีพ.ศ. 2570 ภายใต้การสนับสนุนของกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก (GEF) UNDP เตรียมร่วมมือกับ BEDO นำ Access and Benefit Sharing (ABS) มาสนับสนุนให้ประเทศไทยสามารถจัดการการเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติอย่างครอบคลุม และทำให้มั่นใจว่าผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรายได้หรือองค์ความรู้ จะถูกแบ่งปันอย่างเป็นธรรม ซึ่งระบบนี้ช่วยปกป้องสิทธิของประเทศและชุมชนท้องถิ่น และส่งเสริมการใช้ความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยุติธรรมและยั่งยืน

การจัดงานครั้งนี้ยังถือเป็นกลไกสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นหลังสถานการณ์โควิด-19 โดยตรง  คาดว่าจะช่วยส่งเสริมรายได้ให้กับผู้ประกอบการท้องถิ่นมีช่องทางการตลาดที่เข้มแข็งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริม ‘เศรษฐกิจชีวภาพ’ (Bio-economy) ตามนโยบายของประเทศที่มุ่งเน้นการนำทรัพยากรชีวภาพมาสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ซึ่งงานนี้จะเป็นการนำเสนอตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมของการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพในมิติของการท่องเที่ยวและผลิตภัณฑ์ชุมชน โดยได้เลือกจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นจังหวัดต้นแบบ

นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า “จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นจังหวัดที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมาก มีทั้งพื้นที่ชายฝั่งทะเลที่ยาวสวยงาม อุทยานแห่งชาติทางบกและทางทะเลที่อุดมสมบูรณ์ มีศักยภาพอันโดดเด่นทางด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ที่เป็นบ้านของสัตว์ป่านานาชนิด, อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ที่มีระบบนิเวศทั้งทางบกและทางทะเลอันเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงพื้นที่ชุ่มน้ำและปากน้ำปราณบุรี ซึ่งล้วนเป็นต้นทุนทางธรรมชาติที่ประเมินค่ามิได้ จึงเป็นความท้าทายในการพัฒนาโมเดลการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนควบคู่ไปกับการอนุรักษ์อย่างจริงจัง เราสามารถเป็นต้นแบบที่แสดงให้เห็นว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจกับการรักษาสิ่งแวดล้อมสามารถเดินไปด้วยกันได้”

ภายในงาน “Bio Mart Hua Hin 2025” ผู้เข้าชมจะได้พบกับกิจกรรมที่น่าสนใจมากมายภายใต้แนวคิด “ความหลากหลายทางชีวภาพที่เราไม่ค่อยรู้” ประกอบด้วย :

• โซนตลาดชีวภาพ (Bio Market): พบกับการรวมตัวของผู้ประกอบการกว่า 40 ราย ที่จะมานำเสนอผลิตภัณฑ์ชุมชนคุณภาพสูง อาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อ สินค้าหัตถกรรม และสมุนไพร อาทิ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากว่านหางจระเข้ ชาใบหม่อน สิ่งทอจากเส้นใยธรรมชาติและย้อมสีธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ผลไม้อบแห้ง กาแฟรสเข้ม หอมกรุ่นสดจากไร่ และอื่นๆ อีกมากมาย

• โซนสาธิตและเวิร์คชอป (Demo & Workshop): เปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานได้สัมผัสกับภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด ผ่านกิจกรรมสาธิตสุดสนุก เช่น การสาธิตทำสิ่งประดิษฐ์วัสดุธรรมชาติ ได้แก่ กระเป๋ากระจูด เข็มกลัดผ้าย้อมสีห้อม ลิปบาล์มจากไขผึ้งชัณโรง การทำก้านไม้หอมจากน้ำมันหอมระเหยกลิ่นดอกไม้ไทย 

• โซนนิทรรศการและบริการท่องเที่ยว: เรียนรู้ความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ผ่านนิทรรศการให้ความรู้ และเลือกซื้อแพ็คเกจบริการการท่องเที่ยวที่มีความรับผิดชอบต่อความหลากหลายทางชีวภาพและสิ่งแวดล้อมโดยตรงจากผู้ประกอบการในพื้นที่

• กิจกรรมส่งเสริมการขาย: พิเศษสำหรับผู้ร่วมงาน เพียงร่วมกิจกรรมถ่ายภาพและติดแฮชแท็ก #BioMartHuaHin2025 รับคูปองเงินสดมูลค่า 100 บาท สำหรับใช้จ่ายภายในงานได้ทุกวัน.

นอกจากกิจกรรมในตลาดแล้ว โครงการฯ ยังได้ริเริ่มกิจกรรมนำร่องสุดพิเศษ “BEDO Reach to Love : เที่ยวให้ลึกเพื่อที่จะรักษ์” ซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และเรียนรู้ความหลากหลายทางชีวภาพ แบบ One Day Trip ที่จะนำนักท่องเที่ยวไปสัมผัสวิถีชีวิตชุมชนและธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง เพื่อสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างจากการท่องเที่ยวทั่วไป โดยตลอดการเดินทางจะมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางร่วมให้ความรู้ อาทิ คุณเจท-อธิปัตย์ อู่ศิลปกิจ นักวิจัยจากมูลนิธิโลกสีเขียว ผู้เชี่ยวชาญด้านแมลงและแมงมุม และคุณแวนชัย ประมาณ นักถ่ายภาพนกและสัตว์ป่าชื่อดัง เพื่อสร้างความเข้าใจและความผูกพันระหว่างนักท่องเที่ยวกับทรัพยากรท้องถิ่นอย่างแท้จริง และยังมี Influencer ชื่อดัง คุณเคธี เพจ Kethy and George และคุณนิว ชยพล จูเลียน พูพาร์ต ร่วมเดินทางสัมผัสประสบการณ์ที่น่าค้นหาและซาบซึ้งไปกับการท่องเที่ยวอย่างไรให้ยั่งยืน

การจัดงาน ‘Bio Mart Hua Hin 2025’ ในครั้งนี้ จะเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวชีวภาพให้เป็นรูปธรรมและยั่งยืน สร้างผลกระทบเชิงบวกที่ชัดเจนทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยจะเป็นต้นแบบที่พิสูจน์ว่าการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ชุมชนได้อย่างแท้จริง พร้อมทั้งสามารถอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ และตอกย้ำศักยภาพของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในการเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวคุณภาพสูงที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนานโยบายการท่องเที่ยวที่รับผิดชอบและยั่งยืนของประเทศต่อไป 

#ท่องเที่ยวชีวภาพ #เที่ยวแบบปังไม่พังธรรมชาติ #เที่ยวประจวบ_จบป้ะ

ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมของ BEDO ได้ทาง Facebook page: BEDO Thailand และเว็บไซต์ www.bedo.or.th

More From Author

ไอคอนสยาม คว้าสองรางวัลใหญ่ Thailand Influencer Awards 2025 ในกลุ่มรีเทล และรางวัล Soft Power ตอกย้ำเป็นศูนย์กลางสร้างประสบการณ์ระดับโลก ที่ครองใจกลุ่มเป้าหมายทั้งโลกออนไลน์และออฟไลน์

“ฟิวเจอร์พาร์ค” ทุ่มงบกว่า 2,000 ล้านบาทเดินหน้ารีโนเวตครั้งใหญ่ฉลองครบรอบ 30 ปียกระดับสู่ศูนย์การค้าชั้นนำระดับภูมิภาค

ไอคอนสยาม คว้าสองรางวัลใหญ่ Thailand Influencer Awards 2025 ในกลุ่มรีเทล และรางวัล Soft Power ตอกย้ำเป็นศูนย์กลางสร้างประสบการณ์ระดับโลก ที่ครองใจกลุ่มเป้าหมายทั้งโลกออนไลน์และออฟไลน์

บริษัทบี. กริม ผนึกสยามพิวรรธน์ เดินหน้าความร่วมมือเชิงกลยุทธ์หลายมิติ ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปสยามพารากอน -ขับเคลื่อนสู่อนาคตพลังงานสะอาด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *