

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมกับ จังหวัดขอนแก่น และภาคีเครือข่ายในพื้นที่ จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกิจกรรม “มุ่งเป้าอนาคตประเทศไทย น้ำมั่นคง ไม่ท่วม ไม่แล้ง” เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายสำคัญตามยุทธศาสตร์ ววน. โดยมี ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เป็นประธานในพิธี กล่าวเปิดงานและร่วมลงนาม พร้อมด้วย นางสาวเสาวนีย์ มุ่งสุจริตการ รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ และคณะผู้บริหาร วช. เข้าร่วมในงาน นอกจากนี้ยังมี นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นายธงชัย โอฬารพัฒนะชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม จากจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดชัยภูมิ กว่า 16 หน่วยงาน เข้าร่วมลงนามและร่วมแสดงเจตนารมณ์ในการขับเคลื่อนความร่วมมือดังกล่าว ณ โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชา ออคิด จังหวัดขอนแก่น

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. ภายใต้กระทรวง อว. เป็นหน่วยบริหารจัดการทุนวิจัยและนวัตกรรม ร่วมกับสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) ซึ่งเป็นหน่วยบริหารจัดการทุนด้านการเกษตร สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กสว.) ให้ขับเคลื่อนเป้าหมายสำคัญตามยุทธศาสตร์ ววน. ในประเด็น “น้ำมั่นคง ไม่ท่วม ไม่แล้ง ใน 10 จังหวัด” โดยนำองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมไปบูรณาการร่วมกับกลไกในพื้นที่ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ ได้แก่ 1. น้ำไม่ท่วม ไม่แล้ง (100 ตำบล ใน 10 จังหวัด) 2. ลดความเดือดร้อนด้านน้ำท่วม–น้ำแล้ง 120,000 ครัวเรือน 3. เพิ่มรายได้/ลดค่าใช้จ่ายจากภาครัฐ 900 ล้านบาทจังหวัดขอนแก่นเป็นหนึ่งในพื้นที่เป้าหมายสำคัญในการบริหารจัดการน้ำเพื่อความมั่นคง โดย วช. ได้ร่วมดำเนินงานกับภาคีหน่วยงานต่าง ๆ และพร้อมรับฟังความคิดเห็น เพื่อร่วมกันหาแนวทางยกระดับการแก้ไขปัญหาน้ำของจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดชัยภูมิ ไม่ว่าจะเป็นด้านการประกันน้ำให้เพียงพอ การแก้ปัญหาภัยแล้งให้เกษตรกรพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน การลดความเสี่ยงน้ำท่วม และการพัฒนาระบบเตือนภัย เพื่อให้ชุมชนมีความปลอดภัยมากขึ้น วช. รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับทุกหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่มีเจตนารมณ์ร่วมกัน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาด้านน้ำของประเทศ อันเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการ “มุ่งเป้าอนาคตประเทศไทยเพื่อน้ำมั่นคง ไม่ท่วม ไม่แล้ง ด้วยวิจัยและนวัตกรรม”


นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า จังหวัดขอนแก่นเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญทั้งด้านเศรษฐกิจและการเกษตรของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ น้ำจึงเป็นหัวใจสำคัญของการดำรงชีวิต การผลิต และการพัฒนาเมือง แต่ในขณะเดียวกัน ขอนแก่นก็เผชิญทั้งภาวะภัยแล้งในหลายพื้นที่ และปัญหาน้ำท่วมในบางช่วง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อเกษตรกรและประชาชนปัญหาเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า การบริหารจัดการน้ำจำเป็นต้องพัฒนาให้มีความเป็นระบบ มีประสิทธิภาพ และยั่งยืนมากยิ่งขึ้น จังหวัดขอนแก่นมีเป้าหมายชัดเจนที่จะพัฒนาเมืองให้เติบโตบนพื้นฐานของความสมดุล เพื่อสร้างสังคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ก้าวสู่การเป็น “เมืองสิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ” หรือ Smart Green City ที่ประชาชนมีคุณภาพชีวิตดี และธุรกิจสามารถเติบโตท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่สมดุล โดยทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างรับผิดชอบ กิจกรรม “มุ่งเป้าอนาคตประเทศไทยเพื่อน้ำมั่นคง” จึงเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมคิด ร่วมลงมือ และร่วมสร้างแนวทางจัดการน้ำแบบองค์รวม เชื่อมโยงวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ตามยุทธศาสตร์ของ ววน. เพื่อให้ขอนแก่นก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในวันนี้ จึงเป็นการรวมพลังเพื่อสร้างระบบน้ำที่มั่นคงให้จังหวัดขอนแก่น และแสดงถึงความพร้อมในการร่วมมือกับทุกภาคีในการขับเคลื่อนเป้าหมายนี้ให้เกิดผล เพื่อประโยชน์ของประชาชนและอนาคตของจังหวัดขอนแก่นอย่างแท้จริง


นายธงชัย โอฬารพัฒนะชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า จังหวัดชัยภูมิรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในกิจกรรม “มุ่งเป้าอนาคตประเทศไทยเพื่อน้ำมั่นคง” เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเป้าหมายสำคัญตามยุทธศาสตร์วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในการสร้างความมั่นคงด้านทรัพยากรน้ำของประเทศอย่างยั่งยืน จังหวัดชัยภูมิมุ่งพัฒนา “เศรษฐกิจเติบโตอย่างสมดุลบนพื้นฐานคุณภาพชีวิตที่ดี” (Balance–Growth Economy) แต่ด้วยข้อเท็จจริง ประชาชนส่วนใหญ่ยังประกอบอาชีพเกษตรกรรมและต้องเผชิญปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภค บริโภค และการเพาะปลูก รวมถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่น การบุกรุกพื้นที่ป่าและไฟป่า ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างต่อเนื่อง การเข้าร่วมความร่วมมือในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อผสานพลังทุกภาคส่วนในการบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการ ทั้งในพื้นที่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ พร้อมทั้งนำนวัตกรรมและองค์ความรู้ที่พร้อมใช้มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ประชาชนจังหวัดชัยภูมิและพี่น้องภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีน้ำใช้อย่างเพียงพอ ทั่วถึง และยั่งยืน ในนามจังหวัดชัยภูมิ ขอขอบคุณทุกภาคีเครือข่ายที่ร่วมผลักดันความร่วมมือนี้ให้เกิดขึ้นจริง และขอยืนยันความพร้อมของจังหวัดในการขับเคลื่อนการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อก้าวสู่อนาคตประเทศไทยที่มีทรัพยากรน้ำมั่นคงและยั่งยืน
ถัดมาเป็นพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง วช. กับหน่วยงานพันธมิตรในพื้นที่ จังหวัดขอนแก่นและจังหวัดชัยภูมิ พร้อมทั้งร่วมแสดงเจตนารมณ์ ดังนี้
ผู้แทนจากจังหวัดขอนแก่น
– นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น
– นางสาวลัดดา ยาวิรัชน์ ผู้แทน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
– นายบุษปกร ขันติธีระกวี ผู้แทน ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติภาค 3
– นายเกียรติพงศ์ สายเมือง ผู้แทน ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6
– นายไพฑูรย์ ประภาถะโร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มงานอ้อย บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด
– นายทศภณ วงษาลี เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น
– นายชัยรัชต์ ปทุมนากุล รองนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น
– นายสุรพงษ์ พินิจมนตรี ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดขอนแก่น
– นายธีระศักดิ์ สุวรรณธาร รองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น
– นายจักรกฤษณ์ ศิริพานิชย์ ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น
ผู้แทนจากจังหวัดชัยภูมิ
– นายธงชัย โอฬารพัฒนะชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ
– นางสาวสุรีวรรณ นาคาศัย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ
– นายบรรยงค์ เกียรติก้องชูชัย นายกเทศมนตรีเมืองชัยภูมิ
– นายถาวร คัดวงษ์ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดชัยภูมิ
– ดร.เชาวลิต สิมสวย ผู้แทน ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดชัยภูมิ
– ดร.อนุวรรตน์ ศรีสวัสดิ์ ผู้แทน ประธานหอการค้าจังหวัดชัยภูมิ
ทั้งนี้ พิธีลงนามดังกล่าวเกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนในพื้นที่ของจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดชัยภูมิจะนำไปสู่การนำองค์ความรู้ทางวิจัยและนวัตกรรมมาใช้แก้ไขปัญหาน้ำ พร้อมสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากและคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน





Visit Today : 314
This Month : 6825
Total Visit : 2286528