วันนี้ (23 ตุลาคม 2568) เวลา 15.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายและรับฟังความคิดเห็น เพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ประจำปี 2569 ณ ศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าเชียงใหม่ ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ และผ่านระบบ Video Conference เชื่อมต่อไปยัง 20 จังหวัดเฝ้าระวัง และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ ทั่วประเทศพร้อมเปิด “ศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ” อย่างเป็นทางการ โดยมี ดร.ชญานันท์ ภักดีจิตต์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาชน เข้าร่วมประชุม และร่วมเสนอข้อคิดเห็น

นายสุชาติ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นควันอย่างจริงจัง เนื่องจากเป็นปัญหาที่กระทบโดยตรงต่อสุขภาพของประชาชน สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจในหลายมิติ ทั้งภาคเกษตร ป่าไม้ และชุมชนเมือง พร้อมเน้นย้ำว่าการบริหารจัดการจะต้องมีการกระจายงบประมาณอย่างทั่วถึง ไม่ให้เกิด “จุดเสี่ยง” ที่อาจลุกลามเป็นปัญหาในวงกว้าง โดยให้ทุกหน่วยงานร่วมกันบูรณาการ วางแผน และดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมกำชับการเข้าดับไฟป่าต้อง “เห็นไว เข้าถึงไว ดับได้ไว” ทั้งนี้หลังจากการประชุมในวันนี้แล้ว จะไม่มีการนิ่งอยู่เพียงในห้องประชุม แต่จะต้องนำไปสู่การปฏิบัติจริง ให้ประชาชนเห็นผลสัมฤทธิ์ได้อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมขอให้ทุกหน่วยงานติดตามผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันเกิดความยั่งยืน โดยในการดำเนินงานได้มอบหมายให้กรมควบคุมมลพิษรวบรวมข้อมูลและข้อเสนอจากที่ประชุม เพื่อจัดทำรายงานสรุปเสนอต่อคณะรัฐมนตรี พิจารณาจัดสรรงบประมาณและกำหนดแนวทางการดำเนินงานเชิงปฏิบัติอย่างเป็นระบบ โดยเป้าหมายสำคัญในปีนี้ คือ การลดพื้นที่เผาไหม้อย่างน้อยให้ได้ 20-30 % จากปีที่ผ่านมา ที่สามารถลด hotspot ลงได้ 40% และที่สำคัญจะต้องดำเนินการผ่านความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย เช่น สภาลมหายใจภาคเหนือ และหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกับชุมชน ในการสนับสนุนการจัดการเศษวัสดุทางการเกษตรอย่างเหมาะสม และใช้เทคโนโลยีติดตามสถานการณ์แบบเรียลไทม์

ทั้งนี้ ภายหลังการประชุม นายสุชาติ ได้เป็นประธานเปิด “ศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ” ซึ่งจะทำหน้าที่เป็น War Room ของภูมิภาคในการรวบรวมข้อมูล สั่งการ และเตือนภัยล่วงหน้าแบบ Real Time เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมและดับไฟป่า พร้อมทั้งเป็นสักขีพยานในการมอบอุปกรณ์ดับไฟป่าให้แก่เจ้าหน้าที่ภาคสนาม โอกาสนี้ นายสุชาติ ยังได้กล่าวให้กำลังใจและชื่นชมเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าและเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ พร้อมระบุว่ารัฐบาลจะเร่งพิจารณาปรับปรุงสวัสดิการและจัดหาอุปกรณ์สนับสนุนให้เพียงพอต่อภารกิจ โดยเฉพาะการนำทรัพย์สินของกลางที่เหมาะสมมาใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติงานภาคสนาม และขอให้เจ้าหน้าที่ ยึดหลักการทำงานสำคัญ 3 ประการ คือ 1) ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ต้องมาก่อน 2) ต้องทำงานเป็นทีมและบูรณาการระหว่างหน่วยงาน 3) สร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนในการดูแลป่า พร้อมย้ำว่า “ภารกิจของท่านไม่ใช่เพียงแค่การทำงาน หากแต่เป็นการปกป้องอนาคตของลูกหลาน ปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ และคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนไทย ผมเชื่อมั่นว่าความร่วมมือและหัวใจที่มุ่งมั่นของทุกคน จะทำให้ประเทศไทยก้าวข้ามวิกฤตไฟป่าและหมอกควันไปได้อย่างยั่งยืน และขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาสัมผัสอากาศหนาวของภาคเหนือและเยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติต่าง ๆ ที่เตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยว” นายสุชาติ กล่าวทิ้งท้าย





