
ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ กระแส ชนะวงศ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกริกกล่าวว่า “วันนี้เราต่างได้มาร่วมน้อมนำจิตตั้งมั่นเพื่อแสดงออกถึงความเคารพ และน้อมรำลึกถึงคุณงามความดีอันสูงส่งที่มีอย่างคุณูปการ ของท่าน ดร.เกริก มังคละพฤกษ์ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 73 ปี มหาวิทยาลัยเกริกได้ผ่านช่วงเวลาที่มีคุณค่า และทำหน้าที่รับใช้สังคมมาอย่างยาวนานด้วยรากฐานที่ท่าน ดร.เกริก มังคละพฤกษ์ ได้เป็นผู้ก่ออิฐก้อนแรกของการศึกษาให้แก่เยาวชนในวันนั้นจนถึงวันนี้ต่างเติบโตออกไปปฏิบัติหน้าที่ดูแลครอบครัว สังคม และประเทศชาติอย่างมีคุณค่า คุณธรรม และสร้างชื่อเสียงให้แก่มหาวิทยาลัยเกริกดังเป็นที่ปรากฎในสังคม

ด้วยสำนึกในคุณความดี และคุณูปการอันมีคุณค่าต่อการศึกษาของประเทศชาติที่ท่าน ดร.เกริก มังคละพฤกษ์ ได้วางรากฐานที่แข็งแรงและมั่นคง พวกเราทั้งหลาย ทั้งผู้บริหาร คณาจารย์ นักศึกษา และบุคลากรทุกคนจะขอสืบสานปณิธาน อันสูงส่งของท่าน ดร.เกริก มังคละพฤกษ์ ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจในความรับผิดชอบต่อหน้าที่ เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์และพัฒนาการศึกษาของมหาวิทยาลัยเกริกให้มีความเจริญก้าวหน้าสืบไป

ด้าน ดร.ธัญญ์พิชชา อติวัณณ์วงษ์ รองอธิการบดีฝ่ายสื่อสารการตลาดประเทศไทย มหาวิทยาลัยเกริก กล่าวว่า ท่านดร.เกริก มังคละพฤกษ์ นับเป็นปูชนียบุคคลผู้ซึ่งเสียสละทั้งกำลังกาย กำลังทรัพย์ และกำลังสติปัญญา เพื่อพัฒนาการศึกษาให้แก่เยาวชนของประเทศชาติ โดยการก่อตั้ง “โรงเรียนอาจารย์เกริก” ทางด้านพาณิชยกรรมเปิดสอนในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และประกาศนียบัตรวิชาชีพขั้นสูง (ปวส.) ตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ ในปี พ.ศ. 2495 จนถึงปัจจุบันนับเป็นเวลา 73 ปี ที่มหาวิทยาลัยเกริก ได้มีเติบโตและพัฒนาในด้านต่างจนมีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล

ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยเกริกได้จัดการเรียนการสอนระดับปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก และผลิตบัณฑิตออกไปรับใช้สังคมในภาคส่วนต่างๆ อย่างมีคุณค่าดังปณิธานและเจตนารมณ์ของ ท่าน ดร.เกริก มังคละพฤกษ์ ที่ปรารถนาให้บัณฑิตของมหาวิทยาลัยเกริกเป็นผู้มีปัญญาเป็นอาวุธ และ “ถึงพร้อมด้วยความรู้และประพฤติดี” ตามคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ว่า “วิชาจรณสัมปันโน”

โดยทางมหาวิทยาลัยเกริก ได้กำหนดให้ทุกวันที่ 27 กรกฎาคม ของทุกปี ซึ่งวันครบรอบ วันคล้ายวันถึงแก่กรรมของ ท่าน ดร.เกริก มังคละพฤกษ์ เป็น“วันรำลึก ดร.เกริก มังคละพฤกษ์” จนถึงปัจจุบัน ซึงเวียนมาบรรจบเป็นปีที่ 47 ในปีนี้มหาวิทยาลัยเกริก ยังคงตระหนักถึงความสำคัญคุณาปการถึงคุณความดีของท่าน ในด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านการศึกษา จึงได้พร้อมใจกันร่วมแสดงความกตัญญูต่อคุณูปการของท่าน โดยจัดงานพิธี วันรำลึก 47 ปี ดร.เกริก มังคละพฤกษ์ ประจำปี พ.ศ. 2568 เพื่อให้คณะผู้บริหาร คณาจารย์ นักศึกษา และบุคลากร ตลอดจนศิษย์เก่าได้ร่วมวางพวงมาลาเพื่อแสดงความเคารพและรำรึกถึงคุณความดีของท่านโดยพร้อมเพรียง

ดร.ดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์และผู้ดำเนินรายการแต้มต่อ ทาง สถานีโทรทัศน์ ททบ. 5 ศิษย์เก่าดีเด่นสาขาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาสื่อสารการเมือง วิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก กล่าวว่า แน่นอนว่ามันคือความภูมิใจแต่ที่มากกว่าความภูมิใจนั่นคือการที่เราทำงานแล้วมีคนเห็นว่างานที่เราทำนั้นมีคุณค่าต่อสังคมสามารถที่จะเป็นแบบอย่างให้หลายๆคนได้เห็นและนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ และสิ่งที่ยากกว่านั้นก็ คือ การรักษามาตรฐานของการทำงานในวิชาชีพ ตลอดจนการเพิ่มพูนองค์ความรู้อยู่ตลอดเวลา และเพื่อให้เกิดประโยชน์มากสุดกับสังคม สิ่งที่มากไปกว่าองค์ความรู้ที่ได้มานั่นคือนำไปใช้ในการทำงานบนพื้นฐานของความรับผิดชอบและยึดมั่นในหลักจรรยา การสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องอันจะเป็นผลสะท้อนว่าเราสามารถปรับใช้ทฤษฎีและความรู้ที่ได้ศึกษามาไปนำเสนอถ่ายทอดต่อให้สังคมให้รับรู้และเข้าใจถูกต้องได้มากน้อยเพียงใด เรียนเพื่อรู้อย่างเดียวไม่พอแต่ต้องนำไปสร้างสรรค์สังคมให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนและเป็นฟันเฟืองที่ช่วยนำพาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนด้วยค่ะ
ดร.อภิวัฒน์ จ่าตา ผู้สื่อข่าวอาวุโสและนักสื่อสารองค์กร ศิษย์เก่าดีเด่นสาขาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาสื่อสารการเมือง วิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก กล่าวว่า “ผมเป็นลูกหม้อของมหาวิทยาลัยเกริกคนนึงเพราะผมเริ่มศึกษาตั้งแต่ระดับปริญญาตรีสาขาวิชานิเทศศาสตร์ปริญญาโทสาขารัฐศาสตร์และปริญญาเอกสาขาสื่อสาร การเมืองทีนี่ คำว่า”ความรู้ทำให้องอาจ”ซึ่งเป็นคำขวัญและคุ้นชินสำหรับบุคลากรและนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเกิดยังคงเป็น ในครั้งแรกที่เข้ามาในมหาวิทยาลัยเกริกแห่สัมผัสผมได้ถึงความสง่างามของอนุสาวรีย์ ท่านอาจารย์ดร.เกริก ในเบื้องหน้า
จนกระทั่งได้เข้ามาศึกษาที่นี่นับได้ว่าเป็นสถาบันที่ตอบโจทย์ในความมุ่งมั่นของผมเพราะผมได้รับองค์ความรู้มากมายพร้อมทั้งได้รับทราบถึงคุณความดีของท่านทำให้ผมรู้สึกว่าผมควรก้าวตามรอยปฏิภาณของท่าน โดยนำทั้ง 2 สิ่งมาผนวกและนำมาปรับใช้ในแง่ของการทำงานและการใช้ชีวิตจนประสบความสำเร็จจนถึงปัจจุบันซึ่งนับได้ว่าความรู้ที่ได้จากการศึกษานั้นคุ้มค่ามากเปรียบได้กับคำที่ว่า”ปัญญาดุจดังอาวุธ” ที่สำคัญเมื่อเรามีความรู้และสำเร็จการศึกษาทำให้เราเกิดการพัฒนาและมีเครือข่ายมากมายในสังคมทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนในด้านต่างๆ แล้วตอนนี้ผมรู้สึกว่า “ผมองอาจได้ด้วยความรู้ ซึ่งความรู้นั้นผมก็ได้มาจากมหาวิทยาลัยเกริกครับ”
ดร.ธนกร ตันติไพจิตร นายเทศมนตรีเทศบาลเมืองสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติและยินดีอย่างยิ่ง การมาร่วมพิธีรำลึก 47 ปี ดร.เกริก มังคละพฤกษ์ พร้อมรับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่นท่าน ในครั้งนี้อบอุ่นเหมือนได้กลับมาบ้านเดิมอีกครั้ง ด้วยมหาวิทยาลัยเกริกนี้มีแหล่งประสาทวิชาและบ่มเพาะสร้างพื้นฐานที่ดีในการทำงานเพื่อประชาชนให้กับผมในฐานะนักการเมืองที่ต้องดูแลประชาชนได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความเข้าใจที่ดีกับประชาชนในพื้นที่เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกันและเกิดการพัฒนาไปในทิศทางเดียวกันสำเร็จตามเป้าหมาย เช่นการเลือกตั้งที่ผ่านมาผมใช้สื่อ animation ในการสื่อสารเพื่อให้เกิดการรับรู้ น่าสนใจและเข้าใจถึงนโยบายที่ต้องการจะสื่อสารได้ง่ายขึ้น ผนวกกับองค์ความรู้ต่างๆที่ได้ศึกษามาจนทำให้ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งครั้งนี้
ดร. วิธาวีร์ ปทุมสวัสดิ์ สมาชิกวุฒิสภา ศิษย์เก่าดีเด่นสาขาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตการจัดการองค์กรยุคใหม่ มหาวิทยาลัยเกริก กล่าว่า “รู้สึกยินดีและภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ที่ได้มาร่วมพิธีรำลึก 47 ปี ท่าน ดร. เกริก มังคละพฤกษ์ และได้รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่นในครั้งนี้ เพราะสามารถนำความรู้จากการศึกษามหาวิทยาลัยเกริกแห่งนี้ ไปใช้ให้เป็นประโยชน์กับประเทศชาติในฐานะสมาชิกวุฒิสภาโดยสิ่งต่างๆที่ได้เรียนรู้ศึกษามาไม่เพียงแต่วิชาความรู้ที่เราสามารถนำไปปรับใช้ในแง่ของการบริหารจัดการและการทำงานในบทบาทต่างๆเท่านั้น แต่ยังมีมิติอื่นๆอีกมากที่สามารถนำไปบูรณาการต่อยอดสร้างทฤษฎีใหม่ๆ และในแง่ของสัมพันธภาพที่ดีระหว่างจิตกับอาจารย์และกลุ่มเพื่อนๆที่ศึกษาด้วยกันที่สำคัญคือ ทำให้เรามีความมั่นใจมีความภาคภูมิใจในการที่จะไปปฏิบัติหน้าที่ต่างๆด้วยความรู้ที่เรามีอย่างแท้จริง

รองอธิการบดีฝ่ายสื่อสารการตลาดประเทศไทย มหาวิทยาลัยเกริก กล่าวเพิ่มเติมว่า “ปัจจุบันผู้ที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกริกจำนวนมากล้วนประสพความสำเร็จมีชื่อเสียง เป็นน่าเชื่อถือ และเป็นที่ยอมรับในสังคม ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีให้เห็นจำนวนมาก นั่นยิ่งเป็นสิ่งที่ตอกย้ำ ถึงปณิธานของท่าน ดร. เกริก มังคละพฤกษ์ ที่ว่า “ความรู้ทำให้องค์องอาจ” อย่างแท้จริง
