วันที่ 11 พ.ค.66 ที่ทำการพรรคชาติไทย สาขา จ.สุพรรณบุรี นายสรชัด สุจิตต์ ผู้สมัคร ส.ส.สุพรรณบุรี เขต 1 (อ.เมืองสุพรรณบุรี) พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์เลือกตั้งช่วงโค้งสุดท้ายในพื้นที่เขต 1 ว่า ถึงเวลานี้ตนยังเชื่อว่าในพื้นที่จ.สุพรรณบุรี ชทพ.เราต้องไม่พลาด โดยเฉพาะการเจาะลงพื้นที่เพราะพรรคอื่นมาในทางออนไลน์ ตนเห็นว่าพลังของพวกเราพรรคชทพ.ที่ทุกคนในพื้นที่ได้สัมผัสอยู่นั้น เรายังได้รับความนิยมในจ.สุพรรณบุรี อย่างไรก็ตามเมื่อการเลือกตั้งปี 2562 ผู้สมัครส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งได้คะแนนมาเป็นลำดับ 2 และหลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้น ผู้สมัครส.ส.คนนั้นก็ได้มาช่วยตนทำงาน ตนเองก็เปิดกว้างให้กับคนสุพรรณบุรีที่จะทำงานให้กับบ้านเมือง ไม่เคยปิดกั้น ทั้งยังดึงเด็กและเยาวชนในจ.สุพรรณบุรี มาทำงานเพื่อปลูกฝังให้เขารู้ว่า สุพรรณบุรี คือบ้านของเรา ทำให้ได้เห็นว่าหลายคนที่ร่วมทำงานกับพรรคอนาคตใหม่ในการเลือกตั้งครั้งก่อน ก็ได้เข้ามาทำงานร่วมกับเราในพรรคชทพ. ได้ทำงานร่วมกัน เด็กๆเขาก็มีความฝันของเขาที่จะทำงานการเมือง 

นายสรชัด กล่าวว่า อย่างไรก็ตามกระแสก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้บางคนเกิดการตื่นตระหนก แต่สำหรับตนแล้วก็ยังเชื่อมั่นเรื่องการทำงานในพื้นที่อยู่เหมือนเดิม ซึ่งเราทำงานใกล้ชิดพื้นที่มาตลอด ตั้งแต่พรรคชาติไทย มาจนถึงพรรคชทพ. และผู้ใหญ่ในพรรคได้สอนมาตลอดว่า ถึงอย่างไรเราก็ต้องไม่ประมาท อยู่ในพื้นที่และเข้าถึงประชาชนให้ได้ตลอดเวลา ตนจึงเชื่อมั่นว่าเราจะได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างชัดเจน ได้คะแนนหนาแน่น แต่สำหรับกระแสโซเชียลที่เกิดขึ้นในขณะนี้ มันก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เป็นแบบนี้ เพราะเกิดขึ้นมาตั้งแต่การเลือกตั้งปี 62 ในครั้งนั้นหลายคนก็ตกใจว่าทำไมคะแนนของพรรคอนาคตใหม่ กระแสดีขนาดนั้น ขอบอกว่าเรามีการปรับตัวในการทำงานมาตั้งนานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาปรับ เราทำงานกับเยาวชนมากขึ้น สื่อสารกันมากขึ้น เปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนได้มีโอกาสทำงาน เพื่อให้เข้าถึงกันได้มากขึ้นกว่าเดิม

ผู้สื่อข่าวถามว่า คนในพื้นที่ยังมองผลงานในพื้นที่เป็นหลักมากกว่ากระแสใช่หรือไม่ นายสรชัด กล่าวว่า คนในสุพรรณบุรี ส่วนใหญ่จะทราบดี โดยเฉพาะถ้าดูจากเฟซบุ๊กของตนก็จะพบว่าไม่ค่อยมีเยาวชนเข้ามาก่อกวน เชื่อว่าเด็กๆหลายคนทราบดีว่าตนทำงานและมีผลงานอย่างไรในพื้นที่ 

“ในวันที่ 12 พ.ค.นี้ จะมีการปรับกลยุทธ์หาเสียงโค้งสุดท้ายจากเมื่อก่อนที่นายบรรหาร และสมาชิกพรรคจะเดินหาเสียงในตลาดจ.สุพรรณบุรี แต่ครั้งนี้นายวราวุธ มีนโยบายว่าจะเดินหาเสียงอย่างไรไม่ให้มีผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะเรื่องการจราจร ดังนั้นการหาเสียงในวันที่ 12 พ.ค.จะมีการแบ่งสายกันเดิน 18 โซน ปูพรมไปพร้อมกัน โดยจะเริ่มต้นจากสวนเฉลิมภัทรราชินี (หอคอยบรรหารแจ่มใส) ซึ่งเป็นสวนสาธารณะกลางเมืองสุพรรณบุรี และกระจายออกเป็น 18 โซน เพราะออกเดินรณรงค์หาเสียงพร้อมๆกันเพื่อย้ำเบอร์ และจะเน้นย้ำการสื่อสารให้พี่น้องประชาชนชัดเจนเรื่องที่ต้องกาบัตรสองใบ โดยจะมีทั้งผู้ใหญ่ของพรรคชทพ.และมีนิวเจนเนอเรชั่น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนรุ่นใหม่หน้าใหม่ในเมือง ซึ่งเป็นภาคธุรกิจสร้างเศรษฐกิจในกับจ.สุพรรณบุรี อาทิ อุตสาหกรรมอะไหล่รถยนต์ อุตสาหกรรมอาหาร การเกษตร อุตสาหกรรมภาคบริการ และยังมีเด็กรุ่นใหม่ที่ทำพืชสมุนไพร เหล่านี้จะเป็นนิวเจนของพรรคชทพ.​ซึ่งตนพยายามสร้างเป็นเครือข่าย”

นายสรชัด กล่าวต่อว่า ดังนั้นเราจะมีทั้งคนรุ่นใหญ่และรุ่นใหม่ ร่วมเดินรณรงค์หาเสียงไปด้วยกันในวันที่ 12 พ.ค.นี้ เราลงพื้นที่ปฏิบัติงานกันจริง ทำงานอยู่ข้างหลัง แล้วไม่ได้นำมาเผยแพร่ทางโซเชียล เรามีความชัดเจนในการทำงาน ซึ่ง “นิวเจน”หรือ “ยังเจน” ของพรรคชทพ. ทำงานกับคนรุ่นใหญ่ของพรรค เพื่อช่วยกันกำหนดทิศทางของจ.สุพรรณบุรี เป็นการทำงานร่วมกันรับฟังจากทุกๆคน แล้วนำมาขับเคลื่อนแต่ละบทบาทหน้าที่ ตามนโยบายของพรรคชทพ.ว่าเรารับฟังและทำจริง โดยอาศัยประสบการณ์และพื้นฐานของรุ่นใหญ่ ประกอบกับองค์ความรู้และนวัตกรรมจากคนรุ่นใหม่ นำมาปรับเปลี่ยนขับเคลื่อน เดินร่วมกันต่อไปข้างหน้า

ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่ากระแสนิวโหวตเตอร์ครั้งนี้ไม่แรงมากใช่หรือไม่ นายสรชัด กล่าวว่า อยู่ในเกณฑ์กลางๆ ไม่แรงมากเท่าไหร่ ส่วนใหญ่อยู่ในกทม. ไม่ได้สัมผัสเราในพื้นที่ และนิวโหวตเตอร์บางคนที่อยู่ในจ.สุพรรณบุรี เขาจะอยู่ในโลกโซเชียลและไม่ได้สัมผัสเราก็มี มีอยู่ทุกส่วน แต่ไม่ใช่ว่านิวโหวตเตอร์ทั้งหมดจะไปทางนั้น ตนยืนยันว่าจากการประเมินสถานการณ์เลือกตั้งจนถึงเวลานี้ ไม่มีอะไรทำให้หวั่นไหว เมื่อถามย้ำว่าคิดว่าจะสามารถดึงกลุ่มนิวโหวตเตอร์บางส่วนกลับมาได้หรือไม่ นายสรชัด กล่าวว่า “ผมมองว่า บางคนเขาตัดสินใจแล้ว แล้วจะให้เราไปเปลี่ยนเขาให้เขาเปลี่ยนการตัดสินใจภายใน 1-2 วัน คงไม่ได้ แต่ในอนาคต ผมมองว่าน้องๆคงกลับมา เพราะเราทำผลงาน เราไม่ได้พูดอย่างเดียว อีกทั้งที่ผ่านมา ผมมีทั้งวิเคราะห์จุดอ่อนของตัวเอง จุดแข็งของคู่แข่ง พยายามปรับปรุงตัวเองมาตลอด และครั้งนี้มั่นใจว่าไม่เสียแชมป์แน่นอน ส่วนที่มีผลโพลออกมาว่าเขตนี้เป็นจุดเสี่ยง ที่ชทพ.อาจเพลี่ยงพล้ำได้นั้น ก็เอาเลย เดี๋ยววันที่ 14 พ.ค.รู้กัน”

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายมักจะมีพรรคคู่แข่งพยายามดิสเครดิตเพื่อแย่งชิงคะแนนเสียง นายสรชัดกล่าวว่า อยู่ที่จริยธรรมของคน ถ้าจะเอาชนะกันด้วยทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ชนะ ก็ถือเป็นจริยธรรมการทำงานของแต่ละคน แต่สำหรับชทพ.เราทำงานด้วยผลงาน และความคิดพื้นฐานที่ทำเพื่ออนาคตอย่างยั่งยืน ซึ่งสิ่งนี้คือสิ่งที่นายบรรหาร สอนพวกเรามา 

By admin

สนใจโฆษณาติดต่อ คุณจันทร์แรม โทร 0917233792

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข่าวเด่น