ผู้สื่อข่าวรายงานถึงเวทีปราศรัยของพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ลานหน้าห้างสรรพสินค้าสามย่านมิตรทาวน์ ว่า ในช่วงหนึ่งที่แกนนำได้ปราศรัยกับประชาชน นั้น เวลา 19.00 น. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นักเคลื่อนไหวต่อต้านกัญชาเสรี ได้เดินทางมายังพื้นที่ปราศรัย ได้เข้าทักทาย นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และแกนนำที่เตรียมตัวขึ้นเวทีปราศรัยอยู่ด้านข้างเวที ก่อนจะได้ขึ้นเวทีปราศรัยพร้อมกับนายวราวุธด้วย

โดยนายชูวิทย์ กล่าวว่า ตนฐานะศิษย์เก่า พรรคชาติไทย ขอมาสนับสนุน การปราศรัย โดยไม่คิดค่าตัว ขอสนับสนุนพรรคชาติไทยพัฒนา และนายวราวุธ เพราะมีประสบการณ์ทางการเมือง ได้รับการถ่ายทอดวิชาการเมืองมาจากนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกฯ ฐานะบิดา ตนขอสนับสนุนให้นายวราวุธ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง  และได้ส.ส.ในพื้นที่กทม.  ซึ่งนายวราวุธ ได้ไหว้ขอบคุณ

ทั้งนี้การขึ้นเวทีของนายชูวิทย์ ได้ตั้งคำถามกับนายวราวุธ ต่อนโยบายกัญชาเสรีซึ่งนายวราวุธ ประกาศกลางเวทีว่าไม่สนับสนุนการเปิดเสรีกัญชา เพราะมีผลกระทบกับประชาชน

จากนั้น นายชูวิทย์ ได้ฝากไล่หนู เพราะในกทม.เยอะ เขตไหนหนูก็เยอะ ไม่รู้ว่าไปที่สุพรรณบุรีหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า “ไม่เห็นๆ”

จากนั้นนายวราวุธ กล่าวปราศรัย ว่า  10 ปีที่พรรคชาติไทยพัฒนาไม่มีโอกาสปราศรัยในกทม. ท่ามกลางประชาชน และพรรคไม่มีโอกาสเห็นหรือได้ยินปัญหา ไม่มีเครื่องมือช่วยประชานแก้ปัญหาในทุกเขตกทม. ทั้งนี้ พรรคส่งผู้สมัคร ส.ส.15 เขตของพรรค ขอให้สัญญาหากได้รับโอกาสแก้ปัญหาจะมาช่วยแก้ปัญหาให้ตลอดไป

“เหลือเวลา 1 สัปดาห์ที่จะกำหนดชะตากรรมของประเทศไทย และกำหนดการแก้ปัญหา ทั้งนี้การทำงานของพรรคชาติไทยพัฒนาจะผสมผสานการทำงานระหว่างคนรุ่นใหม่ และคนรุ่นใหญ่ เพราะเราทำงานเป็นทีม และเน้นการแก้ป้ญหา ไม่สร้างภาระให้กับคนรุ่นลูก นอกจากนั้นพรรคยังมีแนวทางแก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือน แก้หนี้ในระบบ พัฒนาระบบการศึกษาของเยาวชนที่เรียนในสิ่งที่ใช่” นายวราวุธ กล่าว

ด้านนายสันติ กีรนันทน์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ปราศรัยตอนหนึ่งบนเวทีของพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ลานหน้าหน้าสรรพสินค้าสามย่านมิตรทาวน์ตอนหนึ่ง ว่า ขณะนี้มีนักการเมืองแบ่งฝ่ายคนรุ่นเก่า กับคนรุ่นเด็ก สร้างความแตกแยก แบ่งฝ่าย เพื่อประโยชน์ของตนเองเท่านั้น ขณะที่พรรคชาติไทยพัฒนาไม่สนใจการแบ่งฝ่าย ไม่สนการต่อสู้ทางการเมืองแบบไร้วัฒนธรรม ทั้งนี้มีคนเปรียบเทียบการปราศรัยที่สามย่านมิตรทาวน์กับพรรคการเมืองที่มาปราศรัยก่อนหน้า ตนขอตอบว่าเราไม่กลัวและไม่เคยเปรียบเทียบกับใคร เพราะต้องการเปรียบเทียบการทำงานของตนเอง ว่าดีขึ้นหรือไม่เท่าไร ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนาที่ยืนอยู่ได้วันนี้เพราะทำงานดีขึ้นทุกวัน 

นายสันติ กล่าวว่า สำหรับปัญหาของประเทศไทย ประชาชนส่วนใหญ่ 80% ทำกินแบบแร้นแค้น ส่วนนักการเมืองยังทะเลาะกันแย่งชิงมวลชน โดยไม่สนใจ และไม่เกรงใจประชาชน  ขณะที่พรรคชาติไทยพัฒนาเกรงใจประชาชน  ใส่ใจดูแลประชาชน ให้เสมอภาค เท่าเทียมทุกมิติ ทั้งการเมือง และสังคม  อย่างไรก็ดีการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ผ่านมา พบว่ามุ่งเน้นที่การเพิ่มจีดีพีเท่านั้น โดยไม่สนใจว่าประชาชนยากจนลงเท่าไร ทั้งนี้พรรคชาติไทยพัฒนาไม่หลงทาง นโยบายของพรรคไม่เน้นที่ตัวเลขจีดีพี เพราะมุ่งเน้นการทำนโยบายเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สร้างการพัฒนาที่ยั่งยืน

ตอนนี้มีพรรคการเมืองนำเสนอนโยบาย ทั้ง  300 ข้อ ผมขอถามว่าจะทำทัน 4 ปีหรือไม่  หรือบางพรรคเสนอ 70 นโยบาย หากแตกแยกกัน จะทำได้หรือไม่ ส่วนนโยบายของพรรค 14 ข้อ คิดเพื่อแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในประเทศไทย และสร้างความเข้มแข็งของรากฐาน เช่น เกษตรกร ทั้งนี้ในการเลือกตั้งรอบนี้ พรรคชาติไทยพัฒนามีความจริงใจกับประชาชน นำเสนอนโยบายเพื่อแก้ปัญหาที่ตรงจุด รับฟัง ทำจริง ยึดประชาชนเป็นหลักในการทำงาน บางพรรคการเมือง ชูคนที่เป็นพระเอก และนางเอก แต่พรรคชาติไทยพัฒนา แม้จะชู นายวราวุธ ศิลปอาชา เป็นนายกฯ แต่เบื้องหลังมีทีมทำงานที่เป็นกำแพงเหล็ก เป็นคนทำงานที่มีประสบกาณ์ที่หลากหลายแตกต่าง ผมไม่สามารถสัญญากับประชาชว่าหลังเลือกตั้งจะให้อะไรกับประชาชน เพราะผิดกฎหมาย และดูถูกประชาชน แต่ผมสัญญาว่าหากประชาชนกาเบอร์พรรคชาติไทยพัฒนา ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ และ 14 พฤษภาคม จะได้คนที่ทำงานให้ประชาชนแบบทีมที่มีผู้นำหลากหลาย ไม่คดโกง กาทีเดียวได้ทั้งทีม ดีกว่ากาทีเดียวได้คนเดียวนายสันติ กล่าว 

By admin

สนใจโฆษณาติดต่อ คุณจันทร์แรม โทร 0917233792

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข่าวเด่น