นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม รักษาการอธิบดีกรมฝนหลวงและการเกษตร เปิดเผยว่าจากวานนี้ได้สั่งขึ้นทำฝนหลวงที่ อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี เพื่อให้เข้าใกล้พื้นที่กรุงเทพฯมากที่สุด ซึ่งไม่สามารถปฏิบัติการทำฝนหลวงในพื้นที่กรุงเทพ เพราะติดข้อจำกัดทางการบินที่มีการจราจรทางการบินหนาแน่นสูงมาก โดยได้รับรายงานว่ามีฝนตกเล็กน้อยในกรุงเทพ และภาคเหนือ ขึ้นทำฝนหลวง ที่จังหวัดเชียงใหม่ ทำให้มีฝนตกในพื้นที่และจังหวัดเพชรบูรณ์ด้วย ล่าสุดได้สั่งดำเนินการทำฝนหลวงเร่งด่วน อย่างต่อเนื่อง 5วัน โดยตั้งหน่วยฝนหลวงเฉพาะกิจ เพื่อมาปฏิบัติการแก้ปัญหาฝุ่นPM2.5 ทั่วประเทศทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาาง ซึ่งในช่วงนี้จากการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่ามีมวลความกดอากาศสูงแผ่ลงมา จะทำให้มีความชื้นสัมพัทธ์ 40-50 เปอร์เซนต์ขึ้นไป จะเอื้อให้การขึ้นบินปฏิบัติการทำฝนหลวง และการก่อเมฆ ได้ผลดี รวมทั้งการคำนวนสภาพลมที่เหมาะสมจะพัดพาเมฆฝนมาตกได้ในพื้นที่โดยในวันนี้สภาพอากาศเอื้ออำนวยจะปฏิบัติการทำฝนหลวงตลอดทั้งวัน ซึ่งจะมีทีมนักวิทยาศาสตร์ และทีมทำงาน 6-7 คนต่อลำ เพื่อช่วยกันตัดสินใจในการโปรยสาร การก่อกวนเมฆ ให้เกิดกลุ่มเมฆฝนและการจูงเมฆให้ไปตกในพื้นที่เป้าหมาย 

อย่างไรก็ตามทางทีมฝนหลวงจะติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด หากมีความชื้นสัมพัทธ์เหมาะสมก็จะขยายเวลาการปฏิบัติการฝนหลวงออกไป เพื่อช่วยแก้ปัญหาฝุ่นละอองPM2.5 ไฟป่า หมอกควัน ที่ส่วนใหญ่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้พื้นที่กรุงเทพ ต้องเผชิญปัญหาตลอดเดือนนี้ โดยดูจากภาพถ่ายทางอากาศแล้วปรากฏจุดความร้อนเต็มพื้นที่ เพราะมีการเผาพื้นที่ทางเกษตร จำนวนมาก ซึ่งแนวกระแสลมจะพัดพาเข้ามากรุงเทพ เพิ่มขึ้นด้วย เป็นปัจจัยหลักในการเพิ่มปริมาณฝุ่นละอองมลพิษ มากกว่าฝุ่นPM 2.5 ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเอง

By admin

สนใจโฆษณาติดต่อ คุณจันทร์แรม โทร 0917233792

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข่าวเด่น